#หุ้นวิ


TQR ชูประกันภัยต่อ Personal Accident and Health-Cyber ดาวเด่น

TQR ชูประกันภัยต่อ Personal Accident and Health-Cyber ดาวเด่น

          หุ้นวิชั่น -  บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) ประเมินแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/67 ไปได้สวย ชูประกันภัยต่อ Personal Accident and Health-Cyber-D&O-EV ดาวเด่น เดินหน้าพัฒนาประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ โดยนำเทคโนโลยีมาประมวลผลข้อมูล วิเคราะห์ความเสี่ยง พร้อมขยายเครือข่ายลูกค้า สร้างพันธมิตรใหม่ ขณะที่ บริษัทร่วมทุน อัลฟ่าเซคฯ และ อาร์สแควร์ฯ ลุยเจรจาลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตโดดเด่น   นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR)  เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2567 ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ เช่น การประมวลผลข้อมูล การวิเคราะห์ความเสี่ยง ที่สามารถนำเสนอบริการและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจประกันภัยต่อ “เรามั่นใจว่า ในไตรมาส 4 ปีนี้ TQR จะสามารถทำผลงานออกมาได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อร่วมกับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) และบริษัทประกันภัยชั้นนำ ทั้ง ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident and Health), ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber), ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร (Directors and Officers), ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง (Political Violence), ประกันภัยที่อยู่อาศัย รวมทั้ง ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นช่วง High Season ที่ผู้บริโภคมีการทำประกัน เพื่อนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษี หรือเป็นรอบอายุของการทำประกัน จึงส่งผลต่อการทำประกันภัยต่อของบริษัทประกันภัยเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง จึงเชื่อมั่นว่า การดำเนินธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้พร้อมกับการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานการณ์ จะส่งผลให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้อย่างแน่นอน” นายชนะพันธุ์กล่าว นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 บริษัท ประกอบด้วย “บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด” โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีการนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เพื่อเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นก้าวที่สำคัญในการยกระดับคุณภาพและขยายขีดความสามารถของการบริการประกันภัยไซเบอร์ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรม Healthcare กลุ่มธุรกิจ Payment และ Merchant ขนาดใหญ่ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ธุรกิจให้บริการ (Service) ของบริษัทร่วมทุน “บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด” ได้มีการปรับปรุงระบบและบริการ ผ่านการ Upgrade และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้มีความทันสมัยและสะดวกมากยิ่งขึ้นกับผู้ใช้งาน เพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ให้มั่นคง ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 4 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมอีกหลายราย ส่วนแผนการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักในรูปแบบ M&A ยังอยู่ระหว่างการเข้าศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 77.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 71.32 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 195.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 185.17 ล้านบาท ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 22.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.41 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 59.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 55.44 ล้านบาท

[Vision Exclusive] K ธุรกิจติดสปีด มอเตอร์เอ็กซ์โปจ่อ

[Vision Exclusive] K ธุรกิจติดสปีด มอเตอร์เอ็กซ์โปจ่อ

          หุ้นวิชั่น -  นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้จัดการด้านสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีการพลิกกลับมีกำไร 32.97 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 13.86 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 46.82 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 338%             บริษัทค่อนข้างพอใจกับผลประกอบการดังกล่าว โดยในไตรมาส 4/2567 บริษัทยังมีงานในกลุ่ม Exhibition & Events (MICE Industries) ซึ่งจัดขึ้นทุกปี มีมูลค่างานตั้งแต่ 80-150 ล้านบาท รวมถึงงานในกลุ่ม Interior เช่น งานออกแบบและติดตั้งในร้านค้าในห้างสรรพสินค้า โรงแรม และสนามบิน โดยปัจจุบันมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการติดตามงานเพิ่มเติม             "ไตรมาส 4 นี้ถือเป็นไตรมาสที่มีปริมาณงานจำนวนมากและเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่บริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดี" นายวงศกร กล่าว             สำหรับงาน Exhibition & Events ในไตรมาส 4/2567 งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปจะเป็นหนึ่งในงานสำคัญที่จัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยบริษัทได้รับงานตกแต่งบูธสำหรับแบรนด์รถยนต์จีนอย่าง BYD ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดรถอีวี (Electric Vehicle) นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับงานตกแต่งบูธจากแบรนด์รถยนต์ระดับโลกอย่าง BMW เช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ซึ่งทำให้ปริมาณงานที่บริษัทรับไม่ลดลงและยังคงมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง             งาน Interior ในไตรมาส 4/2567 ขณะนี้มีงานในมือรวม 3 โปรเจ็กต์ โดยได้ปิดจบไปแล้ว 1 โปรเจ็กต์ และยังคงเหลืออีก 2 โปรเจ็กต์ ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการติดตามงานใหม่อีก 2 โปรเจ็กต์ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการดำเนินงานในสิ้นปี 2567 และจะบันทึกเป็น Backlog สำหรับการดำเนินงานในปี 2568 โดยมูลค่าของโปรเจ็กต์ใหม่เหล่านี้ไม่เกินหลักร้อยล้านบาท บริษัทค่อนข้างมั่นใจในการได้รับงานใหม่ในระดับ 70-80%             สำหรับทิศทางในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องจากปี 2567 โดยมั่นใจว่ารายได้ในปี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 835 ล้านบาท ปัจจุบันทั้งกลุ่มงาน Exhibition & Events และงาน Interior มีแนวโน้มเติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และคาดว่า K จะเติบโตสอดคล้องกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น             นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถตั้งหลักธุรกิจได้แล้วในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในปีนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

live-sticky
LIVE