#บล.ดาโอ


DAOL คาดกรอบดัชนีฯ ที่ 1430-1470 จุด จับตามาตรการเศรษฐกิจไทย จีนกลางสัปดาห์

DAOL คาดกรอบดัชนีฯ ที่ 1430-1470 จุด จับตามาตรการเศรษฐกิจไทย จีนกลางสัปดาห์

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) • คาดตลาด รอดูมาตรการเศรษฐกิจใหม่ของทั้งไทยและจีนกลางสัปดาห์ ต่างประเทศจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ • ตลาดเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี นักลงทุนทยอยเข้าเก็บหุ้น(ใหญ่) รวมทั้ง หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี ส่วนแรงขายทำกำไรมีตามปกติ ...... สัปดาห์นี้ มีเรื่องใหญ่ๆ คือ มาตรการเศรษฐกิจของจีนและไทย รวมทั้งเข้าสู่ สัปดาห์สุดท้ายก่อนประชุม FOMC ...... ประเมินกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ไว้ ที่ 1430-1470 จุด • ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาที่ +2.27 แสนตำแหน่ง สูงกว่าประมาณการ(+2.1 แสนต าแหน่ง) และอัตราการว่างงานขยับสูงขึ้น ในเดือน พ.ย. ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ มิเชลล์ โบว์แมน ย้ำ ว่าเธอต้องการลดอัตราดอกเบี้ย ด้วยความระมัดระวัง ท่ามกลางความ เสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ • Fed ยังคงคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป 17-18 ธ.ค.นี้ แต่นักลงทุนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบเข้มงวด(เพียง 0-0.25%) และตั้งคำถามว่ามีแนวโน้มว่า Fed จะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงต้นปี 2568 หรือไม่ โดยข้อมูลสำคัญชิ้นต่อไปจะเป็นรายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า กล่าวคือ สหรัฐฯจะรายการตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคและเงินเฟ้อผู้ผลิต ในวันที่ 11 และ 12 ธ.ค. ตามลำดับ ..... เรามองว่า เหตุนี้ จะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ สินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลก รอดูผลประชุม FOMC • สงครามการค้า บีบให้รัฐบาลต่างๆ ทั่วภูมิภาคก าลังเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องตนเองจากภาษีของทรัมป์ เวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์ สูงสุดจากการย้ายฐานการผลิตของจีนออกไปนอกประเทศ ได้ให้ค ามั่นแล้ว ว่าจะสั่งซื้อเครื่องบิน ก๊าซธรรมชาติเหลว และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากสหรัฐฯ มากขึ้น เจ้าหน้าที่มาเลเซีย กล่าว เมื่อสัปดาห์นี้ว่า เขาเตือนบริษัทจีนไม่ให้ลงทุนเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ • ประธานสภาเกาห ลีใต้ประกาศ สิ้นสุดการลงมติญัตติถอดถอนประธานาธิบดี ยุนซอกยอล ......แม้ว่ายุนจะรอดพ้นจากการถอดถอนอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ความวุ่นวายทางการเมืองดูท่าจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านยืนยันว่าจะยื่นญัตติถอดถอนต่อไปจนกว่ายุนจะถูกถอดถอน (ฝ่ายค้านจะเสนอครั้งต่อไป 14 ธ.ค.) ..... เรามองว่า ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไต้หวันจะได้ประโยชน์ • ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหลายรายอาจละทิ้งหรือลดความสนใจในเรื่องการอุดหนุนภาษีและอากรน าเข้าที่รัฐบาลไทยเสนอให้ เนื่องจากอำนาจการซื้อที่ อ่อนแอและเงินกู้ธนาคารที่เข้มงวดยิ่งขึ้นท าให้ความต้องการลดลง .....ข่าวนี้ ลบต่ออุตสาหกรรม EV ของไทย และหุ้นนิคมฯ • FTSE SET Index Series ประกาศชื่อหุ้นค านวณดัชนีฯ SET IndexSeries รอบเดือน ธ.ค.24 โดยจะใช้ราคาปิด 20 ธ.ค.67 เพื่อ rebalanceหุ้นที่เข้า Large-Cap คือ MINT โดย EA ถูกน าออก ..... ในส่วนของ Mid-Cap หุ้น EA และ CCET จะเข้าค านวณ ส่วน B-LAND, BYD, MINT(ย้าย ไป Large) , ORI, SPCG ถูกน าออก • หุ้น DELTA เทรดด้วย Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.-11 ธ.ค. .....เราประเมิน ถ้าปลด lock ราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นต่อได้ • Event ส าคัญสัปดาห์นี้ : ตัวเลขเงินเฟ้อจีน (9) ตัวเลขส่งออกของจีน(10) ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐฯ(คาด 2.7%)(11) เงินเฟ้อผู้ผลิตของ

บลจ.ดาโอ เปิดขายกองทุน DAOL-TAIWANEQ รับการโตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไต้หวัน

บลจ.ดาโอ เปิดขายกองทุน DAOL-TAIWANEQ รับการโตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไต้หวัน

          “บลจ.ดาโอ” ชี้ เศรษฐกิจไต้หวันโดดเด่นจากอุตสาหรรมเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ที่มีส่วนสำคัญใน Supply Chain ของโลก หนุนกำไรตลาดเติบโต เป็นจังหวะลงทุน เปิดขาย ‘กองทุนเปิด ดาโอ ไต้หวัน อิควิตี้ (DAOL-TAIWANEQ)’ 14-20 พฤศจิกายน 2567  โอกาสสร้างรับผลตอบแทนจาก Mega Trends ใน AI”           คุณมนชญา รัชตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด หรือ บลจ.ดาโอ (DAOL INVESTMENT MANAGEMENT) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไต้หวันยังเติบโตได้ดี โดยธนาคารกลางไต้หวันคาดการณ์การเติบโตของ Real GDP ในปี 2024 อยู่ที่ 3.82% เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน และคาดการณ์ปี 2025 จะเติบโตที่ 3.08% ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP per Capita) ของไต้หวันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าจะแซงหน้าญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ภายในปีนี้           ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไต้หวัน จะมาจากการพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้มีศักยภาพในการประมวลผลที่สูงขึ้น และการเติบโตอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่คาดว่า จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจาก 5.27 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023 เป็นมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 โดยมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ 5-6% ซึ่งไต้หวันมีส่วนแบ่งตลาดระดับโลกในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้านการผลิตชิป (Foundry) อยู่สูงถึง 78%, และมากกว่า 50% ในด้านการบรรจุและทดสอบชิป (IC Packaging and Testing) และมากกว่า 20% ในด้านการออกแบบชิป (IC Design)           นอกจากนี้ ไต้หวันยังมีการลงทุนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์มากกว่า 7.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาความสามารถในการประมวลผลของชิปให้สูงขึ้น โดยโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็เป็นบริษัทของไต้หวันนั้น คือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited (TSMC) ผู้ผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์อันดับ 1 ของโลก และเป็นผู้นำตลาดด้านการผลิตชิปขั้นสูง โดยปัจจุบัน TSMC เป็นเพียงบริษัทเดียวของโลกที่สามารถผลิตชิปขนาดเล็กที่สุด 3 nm และยังมีแผนการพัฒนาที่จะผลิตชิป 2 nm ภายในปี 2025 ซึ่งจะทำให้มีความสามารถในการทิ้งห่างคู่แข่ง และยากที่จะเลียนแบบได้           นอกจากนั้น ไต้หวันยังมีบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  ซึ่งเป็นที่ต้องการในกลุ่มอุปกรณ์สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ขณะที่เทรนด์ของเทคโนโลยี อย่างช่น Internet of Things ,5G , AI และรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) จะยังคงสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตนี้ต่อไป           ด้านภาคการส่งออกของไต้หวัน ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไอที ยังเป็นสินค้าส่งออกหลัก ซึ่งกว่า 40% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด เป็นสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ที่ไต้หวันส่งออกให้คู่ค้าหลักอย่างจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศในกลุ่มอาเซียน ส่งผลบวกต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในระยะยาว และส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไต้หวัน           ด้วยเศรษฐกิจไต้หวันที่ยังมีความสามารถในเติบโตสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไต้หวันมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ดัชนี TWSE มีผลกำไรที่โดดเด่นถึง 35% แซงหน้าตลาดหุ้นหลักในเอเชียทั้งหมด และทำผลงานได้ดีกว่า S&P500 และ Nasdaq 100 ของสหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน           บลจ.ดาโอ มองเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นไต้หวัน จึงขอแนะนำ กองทุนเปิด ดาโอ ไต้หวัน อิควิตี้ (DAOL-TAIWANEQ) เปิดเสนอขายวันที่ วันที่ 14-20 พฤศจิกายน 2567 (ความเสี่ยงระดับ 6 : ความเสี่ยงสูง) ลงทุนตรงผ่าน iShares MSCI Taiwan ETF (EWT US) ซึ่งเป็น ETF บนตลาด NYSE ARCA ที่บริหารโดย BlackRock, Inc. บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่สุดในโลกและเป็นผู้นำในตลาด ETF มายาวนานกว่า 20 ปี กองทุนมีการลงทุนตามดัชนี MSCI Taiwan 25/50 ในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางหลากหลายกลุ่มธุรกิจตามการเติบโตของเศรษฐกิจไต้หวัน รายชื่อหุ้นบริษัทชั้นนำที่ลงทุน 1.)TAIWAN SEMICONDUCTOR MANUFACTURING 2.)HON HAI PRECISION INDUSTRY LTD 3.)MEDIATEK INC 4.)FUBON FINANCIAL HOLDING LTD 5.)QUANTA COMPUTER INC 6.)DELTA ELECTRONICS INC 7.)CTBC FINANCIAL HOLDING LTD 8.)CATHAY FINANCIAL HOLDING LTD 9.)UNITED MICRO ELECTRONICS CORP 10.)ASE TECHNOLOGY HOLDING LTD           “ด้วยกลยุทธ์แบบ Full Replication เพื่อให้พอร์ตลงทุนออกมาใกล้เคียงกับดัชนีที่สุด ทำให้กองทุน iShares MSCI Taiwan ETF ทำผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 36.51% ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 5.87% ย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ 16.36% และย้อนหลัง 10 ปีอยู่ที่ 11.19% (ข้อมูล BlackRock ณ วันที่ 30 กันยายน 2567)”           ปัจจุบันราคาของตลาดหุ้นไต้หวันมีความน่าสนใจ ด้วย Forward PE ของตลาดไต้หวันอยู่ที่ระดับ 17 เท่า ถูกกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ และอินเดีย ขณะที่กำไรปี 2024 และ 2025 มีแนวโน้มเติบโตดี จากเศรษฐกิจไต้หวันที่ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งคาดว่า จะเติบโตมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 ‘กองทุนเปิด ดาโอ ไต้หวัน อิควิตี้’ จึงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนที่เป็น Mega Trends ใน AI ซึ่งเป็นห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 90% ในชิปขั้นสูง” คุณมนชญา กล่าว           สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนดาโอ จำกัด (บลจ.ดาโอ) โทรศัพท์ 02-351-1800 กด 2 หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อหน่วยลงทุน ของ บลจ. ดาโอ  คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  ที่มา Asian Development Outlook (ADO) September 2024 IMF as of August 2024 WSTS (Historical and 2024 Forecast Data), A&M (Projection), as of September 2024 Chip shortages: a 5nm European fab is not the answer’, Yole Group, as of September 2024 Taiwan International Trade Administration, as of September 2024 Bloomberg, as of 15 August 2024 [PR News]

บล.ดาโอ แนะนำ “ซื้อ” SFLEX ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท

บล.ดาโอ แนะนำ “ซื้อ” SFLEX ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คงคำแนะนำ “ซื้อ” SFLEX ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท อิง 2025E PER ที่ 13.5 เท่า (-1.25SD below 4-yr avg. PER โดยไม่รวมปี 2022 ที่กำไรต่ำกว่าปกติ)           ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไร 3Q24E ที่ 67 ล้านบาท (+37% YoY, +3% QoQ) ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 จาก รายได้จะดีขึ้นเป็น 470 ล้านบาท +12% YoY, +4% QoQ ตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ flexible packaging แบบซองพร้อมจุกฝาเปิด-ปิด ซึ่ง SFLEX มีการเพิ่มเครื่องจักรทำจุกเพิ่มเป็น 10 เครื่องในช่วง 2Q-3Q24E จากเดิม 7 เครื่อง (รายได้ต่อซองสูงกว่าซองปกติ 30%) GPM จะยังทรงตัวสูงราว 24.7% (3Q23 = 25.4%, 2Q24 = 24.7%) จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน SPV จะเพิ่มเป็น 7 ล้านบาท จาก 2Q24 ที่ 5 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วง high season           ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไร 2024E/25E ที่ 258 ล้านบาท +40% YoY และ 291 ล้านบาท +13% YoY โดยกำไร 9M24E จะคิดเป็น 76% จากทั้งปี สำหรับกำไร 4Q24E จะยังดีขึ้น YoY โดดเด่นตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น และจะได้อานิสงส์จากการซื้อน้ำยาทำความสะอาดหลังน้ำท่วม GPM จะยังคงทรงตัวสูงและเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไร SPV เป็นปีแรกแต่จะลดลง QoQ จากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรปี 2025E จะดีขึ้นทั้งจากธุรกิจเดิม และเริ่มรับรู้กำไรจาก Star Union ราคาหุ้น underperform SET -7%/-14 ในช่วง 1 และ 3 เดือน ซึ่งสวนทางกับกำไร 1Q-2Q24 ที่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่

บล.ดาโอ คาด SET วันนี้เข้าใกล้ 1470 จุด

บล.ดาโอ คาด SET วันนี้เข้าใกล้ 1470 จุด

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ มีแนวโน้มไปต่อ จับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง ที่อาจออกมาดี ส่วนตลาดหุ้นไทย ยังมีแรงไปต่อจากการ rotate หุ้นไปมา ขณะที่ GULF’s family นำการขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ตะวันออกกลาง เข้าจุดสำคัญ แต่เริ่มมีการพูดเรื่องการเจรจาหยุดยิง หากเกิดขึ้นได้จะเป็นบวกต่อตลาดวันนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังมองว่า ดัชนีฯ จะเดินหน้าเข้าใกล้ 1470 จุด

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน