#ธอส


ธอส. ปล่อยสินเชื่อ68 ที่ 2.5 แสนล. ใจป๋า แจกของขวัญปีใหม่1,000 บ.

ธอส. ปล่อยสินเชื่อ68 ที่ 2.5 แสนล. ใจป๋า แจกของขวัญปีใหม่1,000 บ.

          ธอส. ลั่นเป้าปล่อยสินเชื่อปี 68 แตะ 2.5 แสนลบ. ดันโครงการบ้านเพื่อคนไทยเต็มสูบ พร้อมโครงการหนุนสินเชื่อบ้าน 71 ปี-โครงการร่วมประกันสังคม เสริมสิทธิผู้ประกันตน หนุนเติบโต เผยมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” โอกาสดัน NPL ลด ส่วนล่าสุด NPL ลด 4 เดือนติดอยู่ที่ 5.5% มอบของขวัญปีใหม่ 1,000 บาท ให้ลูกค้ากว่า 2.2 แสนราย ผ่านแอปฯ GHB ALL GEN           นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า คาดการณ์ปี 2568 จะปล่อยสินเชื่อใหม่ถึงระดับ 240,000-250,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2567 ที่ธอส.คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 230,000 ล้านบาท           โดย 11 เดือน 2567 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้วกว่า 200,000 ล้านบาท จำนวน 155,000 บัญชี ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 95,125 ราย สะท้อนว่า ธอส. เป็นธนาคารที่ตอบโจทย์ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางมาอย่างต่อเนื่อง โดยการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวยอมรับว่าเป็นตัวเลขที่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยตลาดสินเชื่อผู้อยู่อาศัยโดยรวม ข้อมูลจากศูนย์อสังหาริมทรัพย์ ทั้งระบบมียอดสินเชื่อที่ 600,000 ล้านบาท ลดลง12-14% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ธนาคารระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น           ระดับราคาบ้านที่ 3 ล้านบาท มีหลักเกณฑ์ผ่อนปรน ตามนโยบายรัฐบาลทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น ในช่วงต้นปี ธอส.มีออกสินเชื่อโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงิน 20,000 ล้านบาท ก็มีความต้องการเต็มวงเงิน และ ขณะนี้ก็มีโครงการ สินเชื่อซื้อ ซ่อม สร้าง แต่งบ้าน วงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับ การซื้อหรือสร้างบ้าน และอีก 5,000 ล้านบาท สำหรับการซ่อมแซมบ้าน อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 - 5 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี           และยังมีโครงการ “สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส.” อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.71% ต่อปี ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับความนิยมมาก โดยมีการเปิดวงเงินสินเชื่อแรกไป 50,000 ล้านบาท ซึ่งมีความต้องการเข้ามาเต็มวงเงิน และมีการเปิดวงเงินอีก 50,000 ล้านบาท โดยมียอดยื่นกู้มาแล้วกว่า 80,000 ล้านบาท และยังมีโครงการ ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคมคือ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ช่วยเหลือผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตนเอง โดยโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 ที่ต้องการซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ผ่อนคงที่นาน 5 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 3,400 บาท เท่านั้น! ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนจากสำนักงานประกันสังคม ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดโครงการมา มีผู้ประกันตนที่ยื่นจองแล้วกว่า 110,000 ราย           ส่วนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”มีหลักเกณฑ์ ที่ วงเงินบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งทำให้ลูกค้าของธนาคารเข้าเกณฑ์ประมาณ 330,000 บัญชี นับเป็นตัวเลขที่เยอะมาก มองว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้ NPL ลดลง และทำให้คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้น           ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2567 ต้องยอมรับว่าอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 2.6% ส่งผลให้ลูกค้าธนาคารหลายรายได้รับผลกระทบโดยตรง ธนาคารจึงเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กว่า 170,000 บัญชี ซึ่งสามารถทำให้ 60% ของลูกหนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน โดยล่าสุดอยู่ที่ 5.5%           ในมุมมองของปีหน้า การเข้าสู่ทิศทาง "ดอกเบี้ยขาลง" ถือเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีแนวโน้มจะเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงบรรยากาศการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น           และโครงการ บ้านเพื่อคนไทย ผ่อนเริ่มต้น 4,000 ต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี ธนาคารก็จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการนี้ด้วย           ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ส่งมอบของขวัญปีใหม่ให้ลูกค้าคนไทย โดยมอบสิทธิรับเงิน1,000 บาท สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท และมีประวัติการผ่อนชำระต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 48 งวด พร้อมทั้งต้องมีการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน “GHB ALL GEN” อย่างน้อย 2 ครั้ง           ปัจจุบันมีลูกค้าที่เข้าเกณฑ์รับสิทธิ์มากกว่า 220,000 ราย ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่ลูกค้าจะได้รับของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ โดยมาตรการดังกล่าวสะท้อนถึงความตั้งใจของ ธอส. ที่ต้องการสนับสนุนลูกค้าผู้มีวินัยทางการเงินและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริการที่สะดวกยิ่งขึ้น [PR News]

ธอส. หนุนคนไทยมีบ้านส่งท้ายปี จัดงานประมูลขายบ้านมือสอง

ธอส. หนุนคนไทยมีบ้านส่งท้ายปี จัดงานประมูลขายบ้านมือสอง

          ธอส. คัดทรัพย์เด่นทั่วประเทศมาจำหน่ายกว่า 8,000 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 50% วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 – 16.00 น.           ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองส่งท้ายปี 2567 จัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี ครั้งที่ 4/2567 ในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 – 16.00 น. พบกับบ้านมือสอง ธอส. ทำเลดีมากกว่า 8,000 รายการทั่วประเทศ มาประมูลขายในราคาลดพิเศษสูงสุดถึง 50% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) เปิดประมูลในราคาต่ำสุดเพียง 30,000 บาทเท่านั้น พิเศษ!! ผู้ชนะการประมูลสามารถขอสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด นานสูงสุด 24 เดือน*           ผู้ที่สนใจประมูลทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถร่วมประมูลได้ที่ห้องพิมานมาศ ชั้น 11 อาคารจอดรถ ธอส. สำนักงานใหญ่ ส่วนทรัพย์ในภูมิภาค จัดประมูล ณ สาขาที่ตั้งทรัพย์           นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบังคับคดี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว พร้อมสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองส่งท้ายปี 2567 ด้วยการจัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี ครั้งที่ 4/2567 ในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 พร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 10.00 - 16.00 น. โดยคัดบ้านมือสองคุณภาพดี ทำเลเด่นทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า 8,000 รายการ ทั้งประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า มาเปิดประมูลในราคาพิเศษด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50% จากราคาประเมิน           แบ่งเป็นทรัพย์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,200 รายการ ราคาเริ่มต้นประมูลต่ำสุดเพียง 85,000 บาท ได้แก่ ทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ชั้นที่ 4 จาก 4 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 27.85 ตารางเมตร โครงการมีทรัพย์เรซิเดนซ์ 2 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ขณะที่ทรัพย์เด่นที่มีราคาเริ่มต้นประมูลสูงสุด ได้แก่ ทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่าพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ขนาดเนื้อที่ 1,762.30 ตารางวา ในโครงการศรีธราวรรณ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร มีราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ 48 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่เหมาะสมแก่การลงทุน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ชุมชนและมีเส้นทางคมนาคมสะดวก           ส่วนทรัพย์ในภูมิภาคนำออกประมูลมากกว่า 7,000 รายการ โดยมีราคาเริ่มต้นประมูลต่ำสุดเพียง 30,000 บาทเท่านั้น ได้แก่ ทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ขนาดเนื้อที่ 100 ตารางวา ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ขณะที่ทรัพย์เด่นที่มีราคาเริ่มต้นประมูลสูงสุด ได้แก่ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 2,058.40 ตารางวา ในอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี มีราคาเริ่มต้นประมูล 6,930,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่มีขนาดกว้างขวาง เหมาะแก่การทำที่พักเพื่อการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ           ผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้จะต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ตามจำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 5 วันทำการ นับถัดจากวันที่จัดประมูล และยังสามารถใช้ “ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับทรัพย์ NPA” อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นานสูงสุด 24 เดือน* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) และสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ในระหว่างผ่อนดาวน์เพียงชำระเงินประกันการเข้าอยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 1.5% ของราคาประมูลได้อีกด้วย           สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลบ้านมือสอง ธอส. สามารถร่วมประมูลได้ในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 พร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 10.00 - 16.00 น. โดยผู้ชนะการประมูลต้องวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ 10,000 บาททุกรายการ ยกเว้นทรัพย์ที่มีราคาประมูลตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ต้องวางเงินประกันซื้อทรัพย์ 100,000 บาท           ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจประมูลทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถร่วมประมูลได้ที่ห้องพิมานมาศ ชั้น 11 อาคารจอดรถ ธอส. สำนักงานใหญ่ ส่วนทรัพย์ในภูมิภาค จัดประมูล ณ สาขาที่ตั้งทรัพย์ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานประมูลได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และเริ่มประมูลตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com และ Mobile Application : GHB ALL HOME

เปิดภารกิจ ธอส. ยุคดิจิทัล [EP.2/2] | จัดเต็มการลงทุน

เปิดภารกิจ ธอส. ยุคดิจิทัล [EP.2/2] | จัดเต็มการลงทุน

https://www.youtube.com/watch?v=npAniOs1nxY เปิดภารกิจ ธอส. ยุคดิจิทัล [EP.2/2] | จัดเต็มการลงทุน ติดตามรายการ จัดเต็มการลงทุน ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 9.00-9.30 น. ทาง ททบ.5

เปิดภารกิจ ธอส. ยุคดิจิทัล [EP.1/2] | จัดเต็มการลงทุน 

เปิดภารกิจ ธอส. ยุคดิจิทัล [EP.1/2] | จัดเต็มการลงทุน 

https://www.youtube.com/watch?v=RQ6n5jiRUjc เปิดภารกิจ ธอส. ยุคดิจิทัล [EP.1/2] | จัดเต็มการลงทุน ติดตามรายการ จัดเต็มการลงทุน ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 9.00-9.30 น. ทาง ททบ.5

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

สปส. จับมือ ธอส. ลุยสินเชื่อบ้านผู้ประกันตน

สปส. จับมือ ธอส. ลุยสินเชื่อบ้านผู้ประกันตน

           หุ้นวิชั่น - สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567” ให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 จะต้องส่งเงินสมทบต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนเดือนที่ขอใช้สิทธิ์ โดยปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี วงเงินกู้ตามโครงการสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท สามารถใช้ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นของธนาคารได้ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่เข้าร่วมโครงการ และผู้ขอกู้ร่วมทุกคน ต้องไม่อยู่ระหว่างผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน โดยผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม ผ่านทาง Application SSO Plus เพื่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน และรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป พร้อมนำเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกัน มายื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป โดยผู้ประกันตนจะต้องติดต่อยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ภายในระยะเวลาที่ระบุในหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

เสนา - ธอส. ลงนาม MOU สนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน

เสนา - ธอส. ลงนาม MOU สนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน

          บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ สร้างวินัยทางการเงินที่ดี เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การมีบ้านก่อนการขอสินเชื่อกับธนาคาร ผ่านนวัตกรรมทางการเงิน "LivNex เช่าออมบ้าน....เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ" ภายใต้การดำเนิน “โครงการบ้านธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567” นับเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสององค์กรในการสร้างโอกาสและความเท่าเทียม ตอบโจทย์ด้านการมีที่อยู่อาศัยและการสร้างเศรษฐกิจในชุมชน ผ่านแนวคิด Social Enterprise ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ตามหลัก ESG เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน           ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธอส. มีวิสัยทัศน์ในการทำให้คนไทยมีบ้าน ผ่านการสนับสนุนทางารเงินและการเตรียมความพร้อมด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งตรงกับความตั้งใจของเสนาที่มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สนับสนุนให้ทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ซึ่งความร่วมมือนี้ นับเป็นก้าวสำคัญ ของ "โครงการ LivNex เช่าออมบ้าน....เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ" ด้วยการช่วยให้ผู้ที่มีข้อจำกัดทางการเงินสามารถเป็นเจ้าของบ้านคุณภาพได้ง่ายขึ้น และการสร้างวินัยทางการเงินแก่ผู้ที่มีความฝันจะมีบ้านเป็นของตนเอง ด้วยการให้เช่าที่อยู่อาศัยพร้อมโอกาสในการออมและเตรียมความพร้อมสู่การขอสินเชื่อ และยังขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม ตอบโจทย์กลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงน้อย ซึ่งอาจประสบปัญหาในการขอสินเชื่อหรือการซื้อบ้านโดยตรง”           ความร่วมมือครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากโครงการ "บ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567" ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเสริมสร้างความรู้ด้านการบริหารจัดการการเงินให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ เสนาจะมีบทบาทสำคัญในการแนะนำลูกค้าให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธอส. พร้อมทั้งสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งนอกจากการช่วยให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืนแล้ว โครงการ LivNex เช่าออมบ้าน....เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเสนาในการนำแนวคิดด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) มาใช้ในทุกกระบวนการ โครงการนี้เน้นการสร้างวินัยทางการเงิน ลดปัญหาหนี้เสีย ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย และเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตและที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมในระยะยาวอีกด้วย           ด้าน นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ธอส. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน สนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ธอส. จึงเดินหน้าแนวทางดังกล่าว ด้วยการร่วมมือ กับ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดย ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจในการดำเนินโครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567 x Developer เพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่ประกอบอาชีพ ประจำ หรืออาชีพอิสระที่ต้องการขอสินเชื่อแต่ไม่สามารถแสดงเอกสารหรือแหล่งที่มาของรายได้ที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดิน-อาคาร ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ภายใต้โครงการ “LIVNEX เช่าออมบ้าน...เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ” ของบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยปัจจุบันต้องไม่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัย กับ ธอส. และสถาบันการเงินอื่น โดยมีโอกาสได้รับสินเชื่อที่อยู่อาศัยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ MRR-3.75% ต่อปี (2.795% ต่อปี), ปีที่ 2 เท่ากับ MRR-3.15% ต่อปี (3.395% ต่อปี), ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-2.75% ต่อปี (3.795% ต่อปี) เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.33% ต่อปี ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 5,200 บาท เท่านั้น!           “ ธอส. ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับความรู้ทางการเงินผ่านโครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567 x Developer เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. โดยพิจารณาความสามารถในการออมเงินอย่างสม่ำเสมอผ่าน Application : GHB ALL GEN เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 12 เดือน และชำระค่าเช่าออมรายเดือนผ่าน LIVNEX เช่าออมบ้าน...เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ และสามารถนำหลักฐานการออมเงินดังกล่าวมาใช้สำหรับยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนมีโอกาสได้มีบ้านเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอนอน” นายกมลภพ กล่าว           สำหรับ โครงการ LivNex เช่าออมบ้าน....เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ คือ นวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ ของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ นำเสนอเพื่อแก้ปัญหาและเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการมีบ้าน แต่ติดปัญหาด้านเครดิต หรือเอกสารต่างๆ โดยสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเพียงทำสัญญาระยะเวลา 3 ปี และจ่ายค่างวด ซึ่งค่างวดนั้นจะแบ่งเป็นดอกเบี้ยเพียง 1.8% และส่วนที่เหลือเป็นเงินสะสม ซึ่งเปรียบเสมือนการออมเงินไว้หักเงินต้นเมื่อพร้อมกู้สินเชื่อบ้าน การทำสัญญา LivNex ไม่ต้องชำระเงินดาวน์ ไม่ต้องรออนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร สามารถเลือกเป็นเจ้าของโครงการ SENA ที่ต้องการได้กว่า 20 โครงการ หลายทำเลคุณภาพ ทั้งสุขุมวิท รามคำแหง บางนา แจ้งวัฒนะ รังสิต เป็นต้น และที่สำคัญสัญญาซึ่งมีเงินสะสมอยู่นั้น ยังสามารถโอนสิทธิ์เปลี่ยนมือได้อีกตามราคาที่ตกลงกับผู้เช่าออมหรือผู้ซื้อคนใหม่ ค่าเช่าออมบ้านเริ่มต้นที่ล้านละ 4,100 บาทต่อเดือน           ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://livnex.sena.co.th  , SENA Call Center                    โทร 1775 และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ ที่ www.sena.co.th  ,  www.facebook.com/senadevelopmentpcl  หรือ ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center  โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th [PR News]

ธอส. รับโล่ผู้ทำคุณประโยชน์ ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ธอส. รับโล่ผู้ทำคุณประโยชน์ ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

           หุ้นวิชั่น - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รับมอบ “โล่ประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2567” จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะที่ธนาคารได้ให้การสนับสนุนและสร้างคุณประโยชน์ในกิจการของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ให้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ซึ่งเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและคุณภาพการศึกษาให้แก่นักเรียนและครูของโรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง            นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ธอส. รับมอบ “โล่ประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2567” เนื่องใน “วันตำรวจ” ประจำปี 2567 โดยมี พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี ในฐานะที่ธนาคารได้ให้การสนับสนุนและสร้างคุณประโยชน์ในกิจการของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนให้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและคุณภาพการศึกษาให้แก่นักเรียน และครูของโรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ผ่าน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสร้าง/ซ่อมอาคารเรียนในถิ่นทุรกันดาร, โครงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้แก่ครอบครัวของนักเรียน และโครงการยกระดับคุณภาพทางการศึกษา (พัฒนาครู) ต่อยอดความรู้ให้กับครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งการสนับสนุนกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้านการศึกษา ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ด้านของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร โดยธอส.เข้ารับมอบ“โล่ประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2567 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ [PR News]

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

[PR News] ธอส. จัดเต็มคนอยากมีบ้าน ดอกเบี้ยต่ำผ่อนแค่ 3 พันบ.

[PR News] ธอส. จัดเต็มคนอยากมีบ้าน ดอกเบี้ยต่ำผ่อนแค่ 3 พันบ.

หุ้นวิชั่น- ธอส. จัด 6 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เอาใจคนอยากมีบ้านเป็นของตนเอง เริ่มต้นเพียง 1.90% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวด 3,000 บาท เท่านั้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำ 6 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนคนไทยให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 1.90% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.80% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 3,000 บาทต่อเดือน เท่านั้น สินเชื่อบ้าน Big Family ปี 2567 อัตราดอกเบี้ยปีแรก 1.99% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.76% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 3,100 บาทต่อเดือน สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2567 อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.40% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.10% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 2,800 บาทต่อเดือน สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส. อัตราดอกเบี้ยต่ำ 6 เดือนแรก เพียง 0.71% ต่อปี เดือนที่ 7 – 24 เท่ากับ 2.71% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.71% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 2,400 บาทต่อเดือน โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2567 อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.90% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.51% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 3,600 บาทต่อเดือน และ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2567 อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.75% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.31% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 4,600 บาทต่อเดือน ผู้ที่สนใจยื่นขอสินเชื่อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทำนิติกรรมถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมสนับสนุนคนไทยให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการมีที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม จึงได้จัดทำ 6 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงท้ายของปี 2567 ที่ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มสาขาอาชีพและอายุ ให้มีบ้านได้ง่ายขึ้น ด้วยการผ่อนชำระเงินงวดต่ำ โดยรายละเอียดของสินเชื่อทั้ง 6 ผลิตภัณฑ์ มีดังนี้ 1) โครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์) สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน หรือห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ที่ดำเนินโครงการ โดยผู้ประกอบการโครงการจัดสรร (Developer) ที่มีข้อตกลงร่วมกับธนาคาร รวมถึงซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 1.90% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 2.90% ต่อปี และปีที่ 3 เท่ากับ 3.60% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.80% เท่านั้น) ปีที่ 4 – 5อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกรณีซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้สูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 3,000 บาทต่อเดือน เท่านั้น พิเศษ!! กรณีเป็นสัญญาแรก มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ลูกค้าซื้อที่อยู่อาศัยพร้อมซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก จะได้รับวงเงินกู้ 110% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย ทั้งนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการมีที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น 2) สินเชื่อบ้าน Big Family ปี 2567 สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน หรือคอนโดมิเนียมบนเว็บไซต์ ghbankbigfamily.com อัตราดอกเบี้ยปีแรก 1.99% ต่อปี ปีที่ 2 และ ปีที่ 3 เท่ากับ 3.15% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.76%) ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญากรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี ระยะเวลาการกู้สูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 3,100 บาทต่อเดือน 3) สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2567 สำหรับผู้ที่ซื้อ ปลูกสร้าง ปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่มีระบบพลังงานทดแทน หรือระบบช่วยลดการใช้พลังงาน (Eco House) ติดตั้ง Solar Roof หรือซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่เข้าร่วมโครงการของธนาคาร และติดตั้ง Solar Roof กำลังไฟตั้งแต่ 2 กิโลวัตต์ขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.40% ต่อปี ปีที่ 2 และ ปีที่ 3 เท่ากับ 3.45% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.10%) ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญากรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี ระยะเวลาการกู้สูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 2,800 บาทต่อเดือน 4) สินเชื่อบ้าน 71 ปี สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น อัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เพียง 0.71% ต่อปี, เดือนที่ 7 – 24 เท่ากับ 2.71% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.71% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.71%) ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีชำระหนี้ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ในปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 2,400 บาทต่อเดือน 5) โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2567 สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ปลูกสร้าง ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซม ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.90% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 3.75% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 3.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.51%) ปีที่ 4 – 6 เท่ากับ MRR-2.75% ต่อปี และปีที่ 7 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี กรณีกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR ระยะเวลาการกู้สูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 3,600 บาทต่อเดือน พิเศษ!! ผู้กู้ได้รับสิทธิฟรีค่าธรรมเนียม ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900 – 3,100 บาท) 6) โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2567 สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ปลูกสร้าง ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม หรือชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์ไถ่ถอนจำนอง วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีแรก เท่ากับ 3.75% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 4.35% ต่อปี ปีที่ 3 – 5 เท่ากับ 4.85% ต่อปี ปีที่ 6 – 9 เท่ากับ MRR-1.70% ต่อปี และปีที่ 10 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี และกรณีชำระหนี้ เท่ากับ MRR “โปรโมชันสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลายของ ธอส. เพื่อต้องการช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อบ้านมากขึ้น และมีโอกาสรักษาบ้านของตนเองได้ง่ายขึ้น เพราะภาระการผ่อนชำระเงินงวดอยู่ในระดับต่ำ ทำให้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ ซึ่งจึงจัดทำโปรโมชันสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำในครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

[PR News] ธอส. ยกระดับคุณภาพชีวิตครู ปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ

[PR News] ธอส. ยกระดับคุณภาพชีวิตครู ปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ

          ธอส. ร่วมกับ สกสค. ลงนาม MOU ยกระดับคุณภาพชีวิตครู และบุคลากรทางการศึกษาภายใต้โครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. – สกสค. อัตราดอกเบี้ยต่ำ 6 เดือนแรกเพียง 1.71% ต่อปี           ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ยกระดับคุณภาพชีวิตครู และบุคลากรทางการศึกษา ภายใต้โครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. – สกสค. กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท จัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 6 เดือนแรกเพียง 1.71% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก 2.71% ต่อปี สำหรับครู หรือบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และ/หรือ สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ที่ต้องการไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น มายัง ธอส. กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 2,900 บาทต่อเดือน เท่านั้น พิเศษ! ฟรีค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังมีเงินฝากประจำสะสมทรัพย์ สนับสนุนภาคการออม หากฝากครบตามเงื่อนไขได้รับอัตราดอกเบี้ยเท่ากับเงินฝากประจำ 12 เดือน ตามที่ธนาคารประกาศไว้ ณ วันที่เปิดบัญชี บวกเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 2.70% ต่อปี (เงินฝากประจำ 12 เดือน ณ วันที่ 25 กันยายน 2567 เท่ากับ 1.70% ต่อปี)           นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ สนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ธอส. จึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) โดย ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการ สกสค. ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตครู และบุคลากรทางการศึกษา ภายใต้ “โครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. – สกสค.” ซึ่งการลงนาม MOU กับ สกสค. ในครั้งนี้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและยกระดับคุณภาพชีวิตของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 6 เดือนแรกเพียง 1.71% ต่อปี, เดือนที่ 7 – 24 เท่ากับ 2.71% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.20% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 2.71% ต่อปีเท่านั้น และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR – 1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR – 0.75% ต่อปี และกรณีชำระหนี้ = MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) สำหรับครูหรือบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค. และ/หรือ สมาชิก ช.พ.ส. ที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น ไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร ไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่นและปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซม หรือชำระหนี้พร้อมไถ่ถอนจำนอง มายัง ธอส. ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาทผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 2,900 บาทเท่านั้น พิเศษ! ฟรีค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง เพื่อเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่ต้องการมีบ้าน           นอกจากนี้ ธอส. ยังสนับสนุนภาคการออม ด้วยเงินฝากประจำสะสมทรัพย์ หากฝากครบตามเงื่อนไข ได้รับอัตราดอกเบี้ยเท่ากับเงินฝากประจำ 12 เดือน ตามที่ธนาคารประกาศไว้ ณ วันที่เปิดบัญชี บวกเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 2.70% ต่อปี (เงินฝากประจำ 12 เดือน ณ วันที่ 25 กันยายน 2567 เท่ากับ 1.70% ต่อปี)           “ธอส. พร้อมมีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น โดยเฉพาะครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ถือเป็นผู้ที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เพราะเป็นผู้ให้การศึกษาแก่เยาวชนไทยให้มีความรู้ไปพัฒนาประเทศได้ในอนาคต ดังนั้น ครูและบุคลากรทางการศึกษาควรต้องได้รับโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สามารถมีบ้านเป็นของตนเอง ที่นับเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญได้อย่างเหมาะสม รวมถึงยังมีเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนดี และยังมีโอกาสทำให้สามารถขอสินเชื่อบ้าน ได้ในอนาคตอีกด้วย” นายกมลภพ กล่าว           ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า ครูและ บุคลากรทางการศึกษาของไทยที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค. และ/หรือ สมาชิก ช.พ.ส. ในสังกัด สกสค. มีจำนวน 1,323,651 ราย โดยส่วนใหญ่มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก รวมถึงหนี้สินเกี่ยวกับการผ่อนชำระเงินงวดที่อยู่อาศัยด้วย ดังนั้นการที่ ธอส. จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงถือเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาได้เป็นอย่างดี สกสค. จึงขอขอบคุณที่ ธอส. ให้ความสำคัญและคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของครูและบุคลากรทางการศึกษา           สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สนใจขอสินเชื่อดังกล่าวกับ ธอส. สามารถขอหนังสือรับรองความเป็นสมาชิก ช.พ.ค. และ/หรือ สมาชิก ช.พ.ส. พร้อมนำเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกัน มายื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

ธอส.หนุนลงทุนวายุภักษ์ เพิ่มการออมปันผลแกร่ง

ธอส.หนุนลงทุนวายุภักษ์ เพิ่มการออมปันผลแกร่ง

          หุ้นวิชั่น- ธอส. สนับสนุนคนไทยลงทุนผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เพิ่มทางเลือกในการออม รับผลตอบแทนสูง 3.0% – 9.0% ต่อปี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมส่งเสริมคนไทยออมเงิน ตามนโยบายการออมของกระทรวงการคลัง โดยลงทุนผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เพื่อลงทุนในหุ้นที่มีคะแนน ESG Rating สูง สอดคล้องนโยบายการเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืนของ ธอส. รับผลตอบแทนการลงทุนสูง 3.0% – 9.0% ต่อปี โดยเปิดจองซื้อ ผ่าน 2 ช่องทาง คือ จองซื้อผ่านช่องทางสาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ และจองซื้อออนไลน์ผ่าน Money Connect บนแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 16.00 น.           นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้สนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.4 ล้านครอบครัว ขณะเดียวกัน ธอส. ยังพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังในการส่งเสริมการออมให้กับคนไทย เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้สูงขึ้น ดังนั้น ธอส. จึงพร้อมสนับสนุนคนไทยลงทุนผ่านกองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง ตามที่กระทรวงการคลัง มีนโยบายเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ซึ่งเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนรายย่อยราคาหน่วยละ 10 บาท เริ่มต้นที่ 1,000 หน่วย หรือ เท่ากับ 10,000 บาท รวมมูลค่ากองทุนประมาณ 100,000 – 150,000 ล้านบาท โดยธนาคารกรุงไทย ได้รับแต่งตั้งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง และหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยเปิดให้ลูกค้าประชาชนจองซื้อผ่าน 2 ช่องทาง คือ จองซื้อผ่านช่องทางสาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ และจองซื้อออนไลน์ผ่าน Money Connect บนแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 16.00 น.           กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ถือเป็นทางเลือกในการออมให้กับบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย ที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และมีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนรายย่อย และกลุ่มที่ 2 ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม โดยกองทุน ฯ มีนโยบายลงทุน 3 ประเภท คือ หลักทรัพย์สภาพคล่อง หลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในไทยและต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในกิจการที่มีความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ อาทิ หุ้นในกลุ่ม SET100 ที่มีคะแนน ESG Rating สูง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืนของ ธอส. ขณะที่การจ่ายเงินปันผลจะจ่ายอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง แต่ไม่น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำที่กำหนดไว้ร้อยละ 3 ต่อปี และไม่เกินอัตราขั้นสูงที่กำหนดไว้ร้อยละ 9 ต่อปี กำหนดเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี           ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยกองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจบริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และกองทุนฯ นี้ ไม่ใช่กองทุนรวมมีประกันเงินลงทุนและผลตอบแทน โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดหนังสือชี้ชวนเพื่อศึกษารายละเอียดก่อนทำการจองซื้อหน่วยลงทุน

abs

Hoonvision