#กองทรัสต์


กองทรัสต์ WHAIR เคาะราคา 6.40 บาทต่อหน่วย พร้อมชูยีลด์ สูงถึง 8.59%

กองทรัสต์ WHAIR เคาะราคา 6.40 บาทต่อหน่วย พร้อมชูยีลด์ สูงถึง 8.59%

หุ้นวิชั่น - ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล “WHAIR” ประกาศเคาะราคาเสนอขายสุดท้ายของหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 4 ที่ระดับ 6.40 บาทต่อหน่วย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเตรียมตั้งโต๊ะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหน่วยลงทุนได้ ระหว่างวันที่ 26 – 28 พ.ย. 2567 ผ่าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ที่ได้รับการแต่งตั้ง ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด งานนี้ “นางสาวจารุชา สติมานนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHAIR เชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนเป็นอย่างดี พร้อมชูยีลด์ สูงถึง 8.59% และยิ่งได้แรงหนุนจากนโยบายทางการเงินโดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยขาลงที่เอื้อต่อการลงทุนขณะนี้ หนุนให้ดัชนีราคาของ Property Fund & REIT เริ่มทยอยปรับตัวขึ้น เรียกว่าเป็นจังหวะทองของการเข้าลงทุนใน WHAIR จริงๆ ดูๆ แล้วอะไรก็ลงตัว มีทั้งปัจจัยบวกหนุน มิหนำซ้ำทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ เข้าลงทุนเพิ่มเติม อยู่ในเขตพื้นที่ EEC ในนิคมอุตสาหกรรมเบอร์หนึ่งของประเทศ อย่าง WHA Group เอาเป็นว่างานนี้ถ้าไม่รีบเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHAIR ในครั้งนี้ คุณจะพลาดการลงทุนในกองทรัสต์ที่ตอบโจทย์ทุกการลงทุนหลุดมือ ไปอย่างแน่นอน

ดีเดย์ “กองทรัสต์ WHAIR”  เปิดให้ผู้ถือหน่วยเดิมจองซื้อ

ดีเดย์ “กองทรัสต์ WHAIR” เปิดให้ผู้ถือหน่วยเดิมจองซื้อ

          ตอกย้ำการเป็นกองรีทกลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล “WHAIR”  ชูความโดดเด่นและศักยภาพในทรัพย์สินหลักที่จะลงทุนเพิ่มเติม ครั้งที่ 5 มูลค่ารวมประมาณ 1,064.75 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group บนพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นทำเลของจุดยุทธศาสตร์หลักสำหรับอุตสาหกรรมและการผลิตของประเทศ เสริมด้วยปัจจัยบวกจากการย้ายฐานการผลิต และ การเติบโตของ FDI ในพื้นที่โซน EEC  สะท้อนถึงอัตราการเช่าพื้นที่ของทรัพย์สินที่ WHAIR ลงทุนในปัจจุบันและทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้งานนี้ “นางสาวจารุชา สติมานนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHAIR ออกมาประกาศว่า ประมาณการอัตราเงินจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนปีแรก (Dividend Yield) ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติม ในครั้งนี้ สูงถึง 8.33%  พร้อมทั้งยังผลักดันให้กองทรัสต์มีมูลค่าทรัพย์สินรวมสูงกว่า 14,000 ล้านบาท           ทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 18 – 22 พฤศจิกายน 2567 โดย จองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุด 6.60 บาทต่อหน่วย ผ่านธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 26 – 28 พฤศจิกายน 2567 ผ่าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ที่ได้รับการแต่งตั้ง ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด โดยจองซื้อที่ราคาเสนอขายสุดท้าย (ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง)           และยังแอบกระซิบว่า ในช่วงนี้ที่ดัชนีราคาของ Property Fund & REIT เริ่มทยอยปรับตัวขึ้นยิ่งเป็นจังหวะที่ดี ในการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ  WHAIR  กองรีทที่มีผลงานคุณภาพดีให้ผลตอบแทน จากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ได้ยินแบบนี้แล้วหากนักลงทุนพลาดการลงทุนกองรีทที่มีคุณภาพในช่วงดอกเบี้ยขาลง บอกได้คำเดียวว่าตกขบวนการลงทุนแน่นอน

กองทรัสต์ KTBSTMR เตรียมจ่ายผลตอบแทน Q3/67 ย้ำสินทรัพย์คุณภาพแข็งแกร่ง

กองทรัสต์ KTBSTMR เตรียมจ่ายผลตอบแทน Q3/67 ย้ำสินทรัพย์คุณภาพแข็งแกร่ง

           นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาโอ รีท แมเนจเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ‘DAOL REIT’  ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์  เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เคทีบีเอสที มิกซ์ หรือ ‘KTBSTMR’ ได้พิจารณาจ่ายประโยชน์ตอบแทนไตรมาสที่ 3 ปี 2567 สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 30 กันยายน 2567 ในอัตรา 0.1760 บาทต่อหน่วยทรัสต์ เป็นเงินประมาณ 53.06 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนแบบปรับปรุงเต็มปี (Annualized) ที่ประมาณ 7.0%/1 เมื่อเทียบกับราคาพาร์ (ที่ 10.00 บาท/หน่วย) และคิดเป็นประมาณ 10.53%/2 เมื่อเทียบกับราคาตลาด (ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ที่ 6.65 บาท/หน่วย)            โดยการจ่ายผลตอบแทนไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ยังสะท้อนถึงการบริหารสินทรัพย์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ DAOL REIT กำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 6 ธันวาคม 2567 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567            ทั้งนี้ ทรัพย์สินทุกโครงการมีผลประกอบการที่ดีสม่ำเสมอ ส่งผลให้กองทรัสต์มีรายได้สูง แม้ว่าปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในอัตราที่สูง โดยเมื่อพิจารณาข้อมูลในส่วนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทรัสต์ล่าสุด (ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) จะมีมูลค่าต่อหน่วยถึง 10.3389 บาท ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้จัดการกองทรัสต์ มีแผนการเข้าลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสรรหาทรัพย์สินที่มีศักภาพในการเติบโตของรายได้  เพื่อสร้างกระแสรายได้ของกองทรัสต์ให้สูงขึ้น และมีการเน้นพัฒนาโครงการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม  โดยมีการเริ่มติดตั้งการใช้พลังงานทดแทน อย่างการติดตั้งระบบ Solar energy ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการดำเนินการของกองทรัสต์            “ด้วยการบริหารที่คำนึงถึงคุณภาพ เนื่องจากทรัพย์สินมีศักยภาพสูงมีโอกาสในการเติบโตของรายได้จากการประกอบกิจการที่สูงขึ้น จึงมีการดูแลทรัพย์สินให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เพื่อเน้นจุดเด่นของ KTBSTMR ในการกระจายความเสี่ยง ทั้งทางด้านความหลากหลายของประเภททรัพย์สิน  ทำเลที่ตั้งของโครงการ และการกระจายตัวของประเภทอุตสาหกรรม รวมถึงขนาดพื้นที่ของทรัพย์สินด้วย”  นายพลสิทธิ กล่าวว่า            ปัจจุบัน KTBSTMR เป็นกองทรัสต์อิสระแบบผสม ปัจจุบันมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมกว่า 3,765 ล้านบาท มีนโยบายกระจายการลงทุนในทรัพย์สินหลากหลายประเภท ได้แก่ คลังสินค้า (Warehouse) โรงงาน (Factory) อาคารสำนักงาน (Office) ศูนย์การค้าประเภทคอมมูนิตี้มอลล์ (Community Mall)  และ ศูนย์รับฝากข้อมูล (Data Center) เป็นต้น            ในด้านการจัดหาทรัพย์สินเพื่อการลงทุนในอนาคต ทาง DAOL REIT  ได้มีการสรรหาและคัดกรองทรัพย์สินที่มีศักยภาพเพื่อเตรียมความพร้อมในการลงทุนเพิ่มของกองทรัสต์อยู่ตลอดเวลา  และ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่เจ้าของทรัพย์สินในการนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภท อาคารคลังสินค้า / โรงงาน  อาคารศูนย์การค้า  อาคารสำนักงาน  อาคารศูนย์รับฝากข้อมูล(ดาต้าเซ็นเตอร์) โรงแรมทั้งในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด หรือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ  ในการนำเสนอให้แก่กองทรัสต์พิจารณาเข้าลงทุน เจ้าของทรัพย์สินสามารถนำส่งข้อมูลเบื้องต้น เพื่อให้บริษัทฯ ได้พิจารณาข้อมูลและนำเสนอโอกาสในการลงทุนที่เหมาะสมแก่เจ้าของทรัพย์สินได้  โดยเจ้าของทรัพย์สินสามารถศึกษารายละเอียดและนำส่งข้อมูลได้เว็บไซด์ของกองทรัสต์ที่ www.ktbstmr.com  หรือ email : [email protected] หรือ ติดต่อผ่าน DAOL Contact Center 02-351-1800 กด 3เมื่อทาง DAOL REIT ได้รับข้อมูลแล้วจะรีบติดต่อไปยังเจ้าของทรัพย์สินเพื่อประสานงานกันต่อไป ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจกองทรัสต์ KTBSTMR เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจกองทรัสต์ KTBSTMR สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซด์ของกองทรัสต์ที่ www.ktbstmr.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากบริษัท ดาโอ รีท แมเนจเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผ่าน DAOL Contact Center 02-351-1800 กด 3 หมายเหตุ /1 อัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนปรับปรุงให้เต็มปี = (เงินจ่ายประโยชน์ตอบแทน/ราคาพาร์) x (366/92) /2 อัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนปรับปรุงให้เต็มปี = (เงินจ่ายประโยชน์ตอบแทน/ราคาปิดตลาด ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567) x (366/92) คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน

ก.ล.ต. นับ 1 Filing กองทรัสต์ WHAIR เพิ่มทุนครั้งที่ 4 มูลค่าไม่เกิน 1,118 ล้านบาท

ก.ล.ต. นับ 1 Filing กองทรัสต์ WHAIR เพิ่มทุนครั้งที่ 4 มูลค่าไม่เกิน 1,118 ล้านบาท

          กรุงเทพฯ - สำนักงาน ก.ล.ต เริ่มนับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) สำหรับการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 120 ล้านหน่วย เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงาน คลังสินค้า พื้นที่อาคารรวมทั้งสิ้น 40,172 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรม WHA Group มูลค่าการลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 1,118 ล้านบาท   พร้อมชูศักยภาพจุดยุทธศาสตร์โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าชั้นนำของไทย ตั้งอยู่ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่นำร่องในเฟสแรกเป็นต้นแบบ “สมาร์ท ซิตี้” หนุนมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ฯ สูงกว่า 14,000 ล้านบาท หลังลงทุนแล้วเสร็จปลายปี 2567           นางสาวจารุชา สติมานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHAIR เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล หรือ WHAIR  เป็นกองรีทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดยทรัพย์สินตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2567 WHAIR มีพื้นที่ทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการในปัจจุบัน 428,818 ตารางเมตร มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 13,121.56 ล้านบาท และทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการในปัจจุบันมีอัตราการเช่าสูงถึง 93.5%           สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHAIR จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูง ของกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เป็นจุดเชื่อมต่อด้านการขนส่งสินค้าของประเทศในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และถนนสายหลัก ทำให้การขนส่งและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านของระยะเวลาในการเดินทางและต้นทุน           โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHAIR จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงาน คลังสินค้า จำนวน 10 ยูนิต ใน 4 โครงการ พื้นที่รวมทั้งหมด 40,172 ตารางเมตร โดยสรุปข้อมูลแยกตามที่ตั้งของทรัพย์สินได้ ดังต่อไปนี้ สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทโรงงานจำนวน 6 ยูนิต ประกอบด้วยโรงงานแบบ Detached Building จำนวน 3 ยูนิต และโรงงานแบบ Attached Building จำนวน 3 ยูนิต ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทโรงงานแบบ Detached Building จำนวน 1 ยูนิต ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทโรงงานแบบ Attached Building จำนวน 1 ยูนิต ในโครงการดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์พาร์ค 1 สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทคลังสินค้าจำนวน 2 ยูนิต ในโครงการดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์พาร์ค 3           “ความโดดเด่นของกองทรัสต์ WHAIR คือสัดส่วนทรัพย์สินภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมกว่า 90% ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนผลักดันให้เป็นพื้นที่นำร่องในเฟสแรกเป็นต้นแบบ “สมาร์ท ซิตี้” ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนทั้งคนไทย และต่างชาติ ให้ความสนใจเช่าทั้งโรงงาน และคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจซึ่งเป็นหัวใจหลักด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย” อีกทั้งนิคมอุตสาหกรรมของ WHA ใน Eastern Seaboard เป็นพื้นที่ลงทุนของกลุ่มคลัสเตอร์ยานยนต์และชิ้นส่วน และเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของประเทศไทย อาทิเช่น BYD, Changan, Mazda, Ford, Isuzu, Great Wall Motor และ MG เป็นต้น ซึ่งการเติบโตขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Cars) ในทำเลนี้ทำให้โรงงานและคลังสินค้าของ WHAIR ได้รับอานิสงค์จากความต้องการพื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า จากธุรกิจที่เป็น Supply Chain ของ ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ           ด้าน นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินแและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHAIR เปิดเผยว่า การเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHAIR ในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในจังหวะที่มีสัญญาณเชิงบวกจากการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลก ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวในดัชนีราคาของกลุ่ม Property Fund & REIT ที่ทยอยปรับตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHAIR ลงทุนเพิ่มเติมในครั้งที่ 5 เป็นโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าสำเร็จรูป ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ปัจจุบันได้รับอานิสงค์จากการย้ายฐานการผลิต และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เป็นอานิสงค์บวกโดยตรงต่อทรัพย์สินประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าของ WHAIR โดยจะเห็นได้จากทรัพย์สินหลักที่ลงทุนในปัจจุบันที่มีอัตราการเช่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมาที่ 93.5% และทรัพย์สินหลักที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 5 มีอัตราการเช่าเต็มพื้นที่ 100% สะท้อนถึงทรัพย์สินที่ดีมีคุณภาพ และศักยภาพในการสร้างรายได้ ทั้งนี้ ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHAIR มีมูลค่าทรัพย์สินรวมสูงกว่า 14,000 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 468,990 ตารางเมตร  โดยการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้จะเพิ่มรายได้ให้แก่กองทรัสต์ และโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุน           ปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์และร่างหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมสำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 ให้มีผลบังคับใช้ และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนได้ภายในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 [PR News]

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน