กลยุทธ์การลงทุนหุ้นต่างประเทศรายวัน
หุ้นวิชั่น - บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ออกบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ (CSI300 + 0.55%, HSI +0.58%) หลังธนาคารกลางจีน (PBoC) มีมติอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม 74.5 พันล้านหยวนและมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย RRP 14 วันลง 10bps สู่ระดับ 1.85% ซึ่งอาจเป็นไปเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบก่อนวันหยุดชาติจีนในช่วงต้นเดือน ต.ค. ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันศุกร์ (S&P500 -0.19%) ราคาทองคำยังพุ่งต่อเนื่องในวันศุกร์ +1.22% แตะระดับ 2,622 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการกระจายความเสี่ยง ซึ่งมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนเป็นบวก (ทั้งในกรณี Soft landing และ Recession) ในระยะ 6 - 12 เดือนข้างหน้า หลัง Fed มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ตลาด (FedWatch Tool) กลับมาให้น้ำหนักว่า Fed จะลดดอกเบี้ยใน “อัตราปกติ” ที่ 25bps ในครั้งหน้า (6 - 7 พ.ย.) หลังล่าสุดได้มีการหั่นดอกเบี้ยลงในอัตรา 50bps ในการประชุมสัปดาห์ก่อน แต่แสดงความมั่นใจว่ายังไม่เห็นสัญญาณ Recession ซึ่งในครั้งนี้ Fed มี มุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่ “แตกต่างอย่างมาก” หากเทียบกับรอบการผ่อนคลายนโยบายการเงินในอดีตที่เริ่มต้นการปรับลดดอกเบี้ยลงครั้งแรกในอัตรา 50bps สัปดาห์นี้ติดตาม 1) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะ PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศหลัก รวมทั้งดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลขที่ NBER ใช้ประเมินโอกาสเกิด Recession 2) การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP ของญี่ปุ่น โดยการเลือกหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ (27 ก.ย.) อาจนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งทั่วไป ครั้งใหม่ซึ่งตลาดคาดว่าอาจเกิดขึ้นเร็วสุดได้ในช่วงเดือน ต.ค. และอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ BoJ อาจยังไม่รีบเร่งตัดสินใจในเรื่องนโยบายการเงิน หลัง BoJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงิน JPY อ่อนค่า เนื่องจากนาย Ueda ส่งสัญญาณว่า “รอประเมินโมเมนตัมเศรษฐกิจโลก รวมถึงสหรัฐฯ” ให้มั่นใจก่อนสักระยะ ขณะที่ยังหนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ หากภาพเศรษฐกิจและราคาเป็นไปตามที่ประเมินไว้ ข่าวหุ้นอัพเดท: ASML, FedEx, Novo Nordisk, PDD, Mercedes Benz, Mercado Libre, Kering, Infineon, Amazon