ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

อย่าลืม! กองทุน Thai ESG ลดภาษี 3แสนบาทต่อคนต่อปี

          หุ้นวิชั่น – ใกล้สิ้นปีแล้ว เชื่อว่าผู้ลงทุน ประชาชนทั่วไป จะเริ่มมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากการซื้อประกันในประเภทต่าง ๆ ที่นำมาช่วยประหยัดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กองทุนรวมก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่หลาย ๆ คนนิยมลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วยเช่นกัน ปัจจุบันไทยมีกองทุนรวมที่เป็นเครื่องมือช่วยประหยัดภาษีมีอยู่ 3 ประเภท คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ที่กำลังจะหมดอายุในสิ้นปี 2567 และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งแต่ละกองทุนต่างมีความน่าสนใจและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่แตกต่างกัน

          แต่ที่น่าสนใจในมุมของสิทธิประโยชน์ทางภาษีและผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดตั้งกองทุนรวมดังกล่าวคงหนีไม่พ้น Thai ESG ที่กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และ ตลท. ได้ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับเงื่อนไขใหม่ของกองทุนรวมดังกล่าวเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยที่กระทรวงการคลังได้พิจารณาเพิ่มวงเงินลงทุนสำหรับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 1  แสนบาทต่อคนต่อปี เป็น 3 แสนบาทต่อคนต่อปี สำหรับปีภาษี 2567-2569 และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี จากเดิม 8 ปี โดยกระทรวงการคลัง จะประเมินผลมาตรการนี้อีกครั้งเมื่อสิ้นสุดปี 2569

          นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้ปรับปรุงเกณฑ์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของ Thai ESG โดย Thai ESG ขยายขอบเขตการลงทุนให้กว้างขึ้น ส่งผลให้ Thai ESG สามารถจัดสรรเงินลงทุนไปยังกิจการไทยที่มีศักยภาพและมีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในระดับดีเลิศได้เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยในส่วนของการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีธรรมาภิบาล (Governance) ในระดับดีเลิศ จะต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ดังนี้ด้วย

  1. มีธรรมาภิบาลที่ดีเลิศ โดยได้รับ CGR ซึ่งจัดทำโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 90 คะแนนขึ้นไป
  2. มีการเปิดเผยเป้าหมายและแผนการเพิ่มมูลค่าบริษัท (Corporate value up plan) เช่น บริษัทที่มีแผนยกระดับด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
  3. มีการเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับผู้ลงทุน เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม SET Opportunity day กับผู้ลงทุน/นักวิเคราะห์การเปิดเผยความคืบหน้าของแผน Value up เป็นต้น

          ต้องบอกว่า การที่หลักเกณฑ์ใหม่ของ Thai ESG กำหนดให้ บจ. เปิดเผยแผนและเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าบริษัท (Corporate value up plan) โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี นับจากวันที่ได้เปิดเผยแผน เช่น แผนดำเนินการที่ชัดเจนเพื่อเข้ารับการประเมินจากผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล หรือการมีเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน เป็นต้น นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนที่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งเสริมให้ บจ. ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับธรรมาภิบาล และมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายของ UN SDGs และเป็นไปตามเป้าประสงค์ของภาครัฐด้วย

          หลักเกณฑ์ใหม่ยังเสริมบทบาทหน้าที่ของ บลจ. ที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ความรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน (fiduciary duty) ตั้งแต่การปรับปรุงให้ บลจ. มีหน้าที่กำหนดนโยบายและกลยุทธ์การลงทุนเพื่อคัดเลือกทรัพย์สินที่มีคุณภาพเพื่อการลงทุนของ Thai ESG และมีกระบวนการในการบริหารจัดการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible investment) รวมถึงการคัดเลือกผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล (ผู้ประเมินฯ) ที่จะเป็นผู้คัดเลือกหุ้นที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (environment) และความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อการลงทุนของกองทุน Thai ESG โดยที่ผู้ประเมินฯ ก็จะต้องมีความน่าเชื่อถือด้วย กล่าวคือ เป็นตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของ World Federation of Exchanges (WFE) หรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นอิสระ

          มาถึงตรงนี้ พอจะเห็นภาพรวมผลประโยชน์ของ Thai ESG ตามเงื่อนไขใหม่กันแล้ว โดย ก.ล.ต. มุ่งหวังว่า Thai ESG จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับธรรมาภิบาลและเพิ่มความน่าสนใจของกิจการในตลาดหลักทรัพย์ไทยควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออมเป็นการลงทุนระยะยาวในตลาดทุน เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวสำหรับผู้ลงทุน นอกเหนือจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยสู่ความยั่งยืนต่อไป

ที่มา ฝ่ายสื่อสารองค์กร และ ฝ่ายนโยบายธุรกิจจัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Pi Private Wealth เปิดมุมมอง สัมมนา ‘Health & Longevity

Pi Private Wealth เปิดมุมมอง สัมมนา ‘Health & Longevity

บล.กรุงไทยฯ แนะเก็งกำไร DR กลุ่มอิงบริโภค

บล.กรุงไทยฯ แนะเก็งกำไร DR กลุ่มอิงบริโภค

ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 4% ทรัมป์เบรกภาษีนำเข้า 90 วัน

ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 4% ทรัมป์เบรกภาษีนำเข้า 90 วัน

SCB คาดค่าเงินบาทวันนี้ กรอบ 34.10-34.40 บ./ดอลลาร์

SCB คาดค่าเงินบาทวันนี้ กรอบ 34.10-34.40 บ./ดอลลาร์

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด