ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

กองทรัสต์ “ALLY” กวาดรายได้ปี 2567 ที่ 1.6 พันลบ. เคาะจ่ายปันผล 0.1310 บ./หุ้น

          ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY ปิดรายได้รวมสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 1,616.8 ล้านบาท และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 591.4 ล้านบาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้วยอัตราเช่าพื้นที่กว่า 93.1% ประกาศจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/67 ให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 0.1310 บาทต่อหน่วย รับยิลด์ 10% พร้อมประเมินแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกไตรมาสแรกสดใส รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยว และโครงการ  Easy E-Receipt 2.0 หนุนการบริโภคภายในประเทศเพิ่ม

          นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์อัลไล หรือ ALLY เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า อัลไล (ALLY) โดยทำรายได้รวม 1,616.8 ล้านบาท และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 591.4 ล้านบาท โดยในช่วงกลางปี 2567 กองทรัสต์ได้เข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์โครงการศูนย์การค้าแฮปปี้อเวนิว ดอนเมือง โดยนับเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) โครงการแรก ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 กองทรัสต์ ALLY มีโครงการศูนย์การค้าภายใต้การบริหารจัดการ จำนวน 14 โครงการ โดยมีพื้นที่เช่าสุทธิ 164,495 ตารางเมตร และมีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 13,700 ล้านบาท ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทรีเทลที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ นอกจากนี้ กองทรัสต์ได้บริหารโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรับผลดีจากการปรับลดลงของค่าไฟฟ้า Ft ตามนโยบายรัฐบาลส่งผลให้ของค่าใช้จ่ายรวมปรับลดลงกว่า 2.7% จากปีก่อน (YoY)

          ขณะที่ไตรมาส 4/2567 กองทรัสต์มีรายได้รวม 400.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% จากไตรมาสก่อน และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 139.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% จากไตรมาสก่อน กองทรัสต์ จึงพิจารณาจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดําเนินงานในไตรมาส 4/2567 ที่อัตรา 0.1310 บาทต่อหน่วย โดยมีกําหนดการวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยทรัสต์ (Book Closing) เพื่อสิทธิในการรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 เมื่อรวมกับการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 กองทรัสต์จะจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่อัตรารวม 0.5250 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Yield) อยู่ที่ 10% เมื่อเทียบกับราคาตลาด 5.25 บาทต่อหน่วย

          โดย ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 กองทรัสต์ ALLY มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) อยู่ที่ 93.1% และอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 590 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน อัตราการขึ้นค่าเช่าอยู่ที่ 1.2% นอกจากนี้ กองทรัสต์ สามารถต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิมได้กว่า 91.2% และทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่อีกกว่า 30 ราย บนพื้นที่กว่า 3,700 ตารางเมตร ในธุรกิจความงามและสุขภาพ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจของตกแต่งบ้าน และสถาบันการศึกษา เป็นต้น

          นายกวินทร์ กล่าวว่า กองทรัสต์ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการด้าน Waste Management ผ่านโครงการ ALLY Care The Whale ในการจัดขยะรีไซเคิล เพื่อเป็นการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและลดก๊าซเรือนกระจก โดยได้รับการรับรองผ่านโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ผ่าน 4 โครงการนําร่อง ได้แก่ โครงการ เดอะ คริสตัล เอสบีราชพฤกษ์, โครงการ เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา, โครงการ คริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์และโครงการเดอะไพร์ม หัวลำโพง สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 16,022 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า สำหรับการพัฒนาความยั่งยืนด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Action) ในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา และในปี 2568 กองทรัสต์พร้อมดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำการเป็น “กรีนคอมมูนิตี้มอลล์”

          นอกจากนี้ กองทรัสต์มองแนวโน้มไตรมาสแรกของปี 2568 คาดว่าธุรกิจค้าปลีกจะได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาในช่วงฤดูท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างสรรพสินค้าในทำเลทองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ประกอบกับโครงการของรัฐบาล เช่น แคมเปญ ” Easy E-Receipt 2.0 ” ที่เปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2568 จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยผ่านโปรโมชั่นและแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจ ซึ่งศูนย์การค้าภายใต้การบริหารของ ALLY ก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยได้ออกโปรโมชัน ทำแคมเปญการตลาด เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มทราฟฟิก (Traffic) ผู้ใช้บริการในโครงการศูนย์การค้าฯ มากมายตลอดโครงการดังกล่าว ในขณะเดียวกัน การก่อสร้างโครงการสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ถนนราชพฤกษ์เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร รองรับการเติบโตพื้นที่กรุงเทพฯ-นนทบุรี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2568 จะส่งผลบวกกับโครงการศูนย์การค้าในย่านราชพฤกษ์ ได้แก่ โครงการเดอะคริสตัล ราชพฤกษ์ โครงการเดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์ และโครงการสมกรเพลส ราชพฤกษ์

[PR News]

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดน 3 หุ้นแบงก์แค่ไหน?

โดน 3 หุ้นแบงก์แค่ไหน?

ข่าวสังคม การลงทุน

ข่าวสังคม การลงทุน

ตลท.-ก.ล.ต.ปลุกความเชื่อมั่น ยันปัจจัยพื้นฐานบจ.ไทยยังแกร่ง

ตลท.-ก.ล.ต.ปลุกความเชื่อมั่น ยันปัจจัยพื้นฐานบจ.ไทยยังแกร่ง

ราคาทองพุ่งต่อเนื่อง! รูปพรรณ ขายออก 50,750 บ.

ราคาทองพุ่งต่อเนื่อง! รูปพรรณ ขายออก 50,750 บ.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด