ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

กรณีศึกษาจาก Ondo Finance และ Mastercard และ โอกาสของสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย [HoonVision x TokenX]

           เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง Ondo Finance และ Mastercard ในการนำ Real-World Assets (RWA) มาโทเค็นและเชื่อมเข้าสู่เครือข่าย Multi-Token Network (MTN) กำลังสร้างกระแสความตื่นตัวครั้งใหญ่ให้กับวงการการเงิน และสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก

           โดยสินทรัพย์แรกที่เปิดตัวในโครงการนี้คือกองทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น (OUSG) ของ Ondo ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจและผู้ถือโทเค็นสามารถรับผลตอบแทนรายวัน พร้อมการทำธุรกรรมได้แบบ 24/7 โดยแทบไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานคริปโตใด ๆ เพิ่มเติม

Ondo Finance

           เป็นสตาร์ตอัปด้านการเงินแบบโทเค็น (Tokenized Finance) ที่เน้นพัฒนาวิธีการลงทุนผ่านสินทรัพย์ในโลกความเป็นจริง (Real-World Assets หรือ RWA) ในรูปแบบโทเค็น โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การออกโทเค็นกองทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ OUSG ซึ่งได้รับความสนใจจากสถาบันการเงินและนักลงทุนทั่วโลก

Mastercard Multi-Token Network (MTN)

           คือโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่ Mastercard พัฒนาขึ้น เพื่อให้ธนาคารและผู้ให้บริการการเงินสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนได้ในรูปแบบดิจิทัล ชูจุดเด่นในเรื่องความโปร่งใส การชำระเงินรวดเร็ว และขยายความสามารถในการทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องช่วงเวลาทำการหรือความแตกต่างของเขตเวลา

OUSG (Ondo Short-Term U.S. Government Bond Fund)

           เป็นหนึ่งในกองทุนของ Ondo Finance ที่อยู่ในระบบ Blockchain โดยกองทุนตัวนี้ มุ่งลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐความเสี่ยงต่ำและสภาพคล่องสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุสั้น (ตั๋วเงินคลัง หรือ Treasury Bills) และสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดอื่น ๆ โดยผ่านการแปลงเป็นโทเค็นดิจิทัลบนเครือข่ายบล็อกเชน. ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของ OUSG นำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนใน กองทุนสภาพคล่องดิจิทัลสกุลเงินดอลลาร์ของ BlackRock (BUIDL)

           โดยจุดเด่นของ OUSG คือ OUSG ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องสูง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความผันผวน และ มีกลไกการคำนวณและสะสมดอกเบี้ยเป็นรายวัน ทำให้นักลงทุนรับรู้การเติบโตของมูลค่ากองทุนได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องรอเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส

           แต่ OUSG แม้ว่าจะดำเนินการด้วยระบบ blockchain ก็ยังมีข้อจำกัดในบางประการเช่นกัน เมื่อนำมาเชื่อมต่อกับโลกแห่งการเงินในปัจจุบัน นั่นคือ  การซื้อขายหรือการไถ่ถอนอาจถูกจำกัดด้วย settlement windows ที่ต้องไปเชื่อมต่อเครือข่ายการเงินแบบดั้งเดิม

จุดแตกต่างของ OUSG บน MTN ของ Master Card

  1. ธุรกรรม 24/7 ที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา: การผสานเข้ากับ MTN ของ Mastercard ช่วยให้ OUSG สามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่จำกัดด้วยเวลาทำการของธนาคารหรือ settlement windows
  2. เชื่อมต่อกับระบบการเงินดั้งเดิมให้ง่ายขึ้น: MTN ช่วยเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสินทรัพย์โทเค็นกับเครือข่ายการชำระเงินเอกชน (private payment rails) ของธนาคาร ซึ่งทำให้การชำระเงินและการเคลียร์ธุรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เปิดโอกาสในการเข้าถึงมากขึ้น

แล้วเหตุใดจึงนับเป็น “หมุดหมายสำคัญ” ในวงการการเงิน ?

  1. เชื่อมต่อโลกการชำระเงินแบบดั้งเดิมกับบล็อกเชนสาธารณะ
    ความร่วมมือระหว่าง Ondo และ Mastercard ถือเป็นครั้งแรก ๆ ที่ระบบเครือข่ายการชำระเงินภาคเอกชน (Private Payment Rails) สามารถโต้ตอบกับโทเค็นซึ่งทำงานบนบล็อกเชนสาธารณะได้อย่างราบรื่น
  2. เปิดประตูสู่ระบบการเงิน 24 ชั่วโมง
    นวัตกรรมนี้ช่วยให้สถาบันการเงินและธุรกิจต่าง ๆ ก้าวสู่การบริหารสินทรัพย์ (treasury management) ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาทำการของธนาคาร ไม่ต้องกังวลเรื่อง Time Zone จึงมีโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนเงินสด (Cash Flow) ได้มากขึ้น
  3. ต้นแบบการใช้งานจริง (Real Use Case) ของ RWA Tokenization
    ในขณะที่สินทรัพย์โทเค็นรูปแบบต่าง ๆ อาจเคยมีปัญหาด้านกฎระเบียบและเทคโนโลยีมาโดยตลอด การเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าสถาบันการเงินที่เป็นที่ยอมรับอย่าง Mastercard เริ่มเปิดรับและสนับสนุนการนำ RWA มาสู่บล็อกเชนในลักษณะที่ถูกกำกับดูแลตามมาตรฐานทางการเงิน

ประโยชน์ต่อภาคการเงินและธุรกิจ

  1. ธุรกิจและธนาคารเข้าถึง “ผลตอบแทนรายวัน” ได้ง่ายขึ้น
    จากเดิมที่อาจต้องอาศัยบัญชีพิเศษหรือโบรกเกอร์เพื่อลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ แต่เมื่อทุกอย่างอยู่ในรูปแบบโทเค็น สามารถส่งเงินสดและรับโทเค็น OUSG ได้ทันที
  2. ลดข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่
    การทำธุรกรรมบนบล็อกเชนที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย MTN ช่วยให้ชำระเงินหรือแลกเปลี่ยนมูลค่าได้ทุกวันทุกเวลา ลดเวลาในการรอคิวชำระบัญชี (Settlement Windows)
  3. การบริหารความเสี่ยงและความโปร่งใสที่ดีขึ้น
    เนื่องจากบล็อกเชนเป็นระบบแบบบัญชีสาธารณะ (Public Ledger) สามารถตรวจสอบรายการโอนเข้าออกได้ และมี Smart Contract คอยควบคุมเงื่อนไขการโอนหรือล็อกสินทรัพย์

เกี่ยวข้องอย่างไรกับประเทศไทย

           จากกรณีศึกษาที่กล่าวมา  Ondo Finance มีส่วนคล้ายกับการศึกษา Stable Coin ของประเทศไทย โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากการที่กระทรวงการคลังศึกษาความเป็นไปได้ ในการนำเทคโนโลยี Tokenization พัฒนา Stablecoin ใหม่ มีพันธบัตรรัฐบาลที่ออกใหม่ Asset-Backed มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งแพลตฟอร์มเทรดใหม่เสร็จภายในปีนี้ เฟสต่อไปเตรียมเปิดให้ Stablecoin ใช้ซื้อสินค้าได้ ซึ่งความคล้ายเคียงของ OUSG และ Stable Coin ของประเทศไทยนั้นคือโดน back ด้วยพันธบัตรเหมือนกัน

           ดังนั้น การเปิดกว้างต่อ Stablecoin ที่มีพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน อาจเป็นก้าวสำคัญสู่ยุคใหม่ของระบบการเงินไทย ซึ่งในอนาคตอาจเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายบล็อกเชนระดับโลกเช่นเดียวกับกรณี Ondo Finance และ Mastercard การยกระดับเทคโนโลยีและการกำกับดูแลอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กและใหญ่ รวมถึงนักลงทุนทั่วไป มีโอกาสเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลคุณภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเราสามารถเห็นโอกาสต่างๆดังต่อไปนี้ เช่น

  • การพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล:
    แนวทาง Stablecoin ที่มีพันธบัตรรัฐบาลเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะเป็นหนึ่งในนวัตกรรมของประเทศไทยสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยจะเป็นก้าวสำคัญในการที่ภาครัฐเป็นผู้ออกโทเคนเอง
  • ส่งเสริมสภาพคล่องและการเข้าถึงตลาด:
    หาก Stablecoin ในไทยประสบความสำเร็จ จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนและผู้ประกอบการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีคุณภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อระหว่างระบบการเงินดั้งเดิมและดิจิทัล:
    โมเดลที่ได้จาก Ondo Finance และ Mastercard แสดงให้เห็นว่าการผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนกับระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อจำกัดในด้านเวลาการทำธุรกรรมได้

           บทเรียนจากกรณีศึกษาในต่างประเทศเช่น Ondo Finance และ Mastercard จึงอาจจะเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญให้ประเทศไทยสามารถมองหาโอกาสและวางกลยุทธ์ในการพัฒนาระบบการเงินที่มีความทันสมัยและครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัย เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับยุคสินทรัพย์ดิจิทัลในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เขียน สุทธิรัตน์ หาญพานิชย์ Head of Business Development, Token X

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทรีนีตี้ คัด 10 หุ้นเด่น น่าลงทุน Q2/68

ทรีนีตี้ คัด 10 หุ้นเด่น น่าลงทุน Q2/68

GCAP GOLD จับตา “ทรัมป์” รีดภาษีรอบใหม่ ลุ้นราคาทอง New High แตะ 51,200 บ.

GCAP GOLD จับตา “ทรัมป์” รีดภาษีรอบใหม่ ลุ้นราคาทอง New High แตะ 51,200 บ.

ประมูล ICT ปลุกสื่อสาร โอกาสทองหุ้นไหน - เช็ก!

ประมูล ICT ปลุกสื่อสาร โอกาสทองหุ้นไหน - เช็ก!

สถานการณ์ตลาดน้ำมัน แนวโน้มสัปดาห์ 31 มี.ค. – 4 เม.ย. 68

สถานการณ์ตลาดน้ำมัน แนวโน้มสัปดาห์ 31 มี.ค. – 4 เม.ย. 68

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด