หุ้นวิชั่น – ตลาดคาร์บอนเครดิตไทยกำลังยกระดับครั้งสำคัญ หลัง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เผยโอกาสเปิดศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิตในไทย ชี้ช่วยปรับราคาคาร์บอนเครดิตให้แข่งขันได้ในตลาดโลก ด้าน GULF เดินหน้าพลังงานทดแทนและคาร์บอนเครดิต พร้อมโอกาสแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นเหรียญ Token เพื่อขายผ่านแพลตฟอร์ม GULF Binance เสริมสภาพคล่อง ยกระดับความยั่งยืนในภาคพลังงานไทย
ตลาดคาร์บอนเครดิตไทยเตรียมยกระดับสร้างโอกาสใหม่ในภาคพลังงานและเศรษฐกิจ
ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาพิเศษระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมเปิดตลาดคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันราคาคาร์บอนเครดิตในไทยอยู่ที่ 7 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่สิงคโปร์ซื้อขายที่ 14 ดอลลาร์ต่อตัน และยุโรปอยู่ที่ 35 ดอลลาร์ต่อตัน ความแตกต่างนี้ทำให้หากไทยเปิดศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต จะช่วยให้ราคาดีขึ้นและไม่เสียเปรียบ รวมถึงสร้างประโยชน์จากการส่งออกได้มากขึ้น ดร.ทักษิณหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
GULF เดินหน้าแผนคาร์บอนเครดิต-โทเคนดิจิทัล
ด้านนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในด้านคาร์บอนเครดิต โดยบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการด้านพลังงาน ได้ดำเนินการสะสม I-REC และพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิต ทั้งนี้ ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาและแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล (Token) ซึ่งสามารถนำไปซื้อขายบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน เช่น GULF Binance ของบริษัทได้
นางสาวยุพาพินระบุเพิ่มเติมว่า หากความต้องการในตลาดเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต จะช่วยเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายโทเคนดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการด้านคาร์บอนเครดิตในระยะยาว
มุมมองผู้เชี่ยวชาญและผลต่อกลุ่มธุรกิจพลังงาน
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด แนะนำให้ ก.ล.ต. เร่งดำเนินการเปิดตลาดคาร์บอนเครดิตอย่างจริงจัง แม้ปัจจุบันประเทศไทยมีแพลตฟอร์ม FTIX ที่ดำเนินการโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่แล้ว แต่การสนับสนุนจากภาครัฐจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานและยกระดับให้เป็นสากลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์มองว่าการขับเคลื่อนดังกล่าวเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียน เช่น GULF, GUNKUL, BGRIM, GPSC และหุ้นที่มีแผนเกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิต เช่น DITTO, GUNKUL, BCPG, SSP และ STA ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิตในระยะยาว
รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว