หุ้นวิชั่น – นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำด้านเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวในประเทศไทย เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการขายสินค้า ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับภาพรวมทั้งปี 2567 ยังคาดการณ์ว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้
“Q3 เป็นช่วงโลวซีซั่นแต่เราสามารถทำให้ผลงานเติบโตเพิ่มขึ้นได้ จากการออกสินค้าใหม่ ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น”นายวิโรจน์ กล่าว
บริษัทกำลังพิจารณาจัดทำแผนการเติบโตสำหรับปี 2568 โดยเบื้องต้นคาดว่าตลาดขนมขบเคี้ยวจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5% ต่อปี ขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์และพฤติกรรมการบริโภค โดยในแต่ละปี หากมีการกระตุ้นการขายและการตลาดที่เข้มข้น กลุ่มขนมขบเคี้ยวนั้นๆ จะมีโอกาสเติบโตสูงขึ้น
สำหรับกลุ่มขนมขบเคี้ยว แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น หมากฝรั่ง ปลาเส้น และถั่วชนิดต่างๆ พร้อมกันนี้ SNNP ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในกลุ่มขนมขบเคี้ยวอย่างแข็งแกร่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ครอบคลุมในผลิตภัณฑ์หลากหลายกลุ่ม อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ “เบนโตะ” SNNP ยังคงรักษาระดับมาร์เก็ตแชร์ ระดับ 70% และผลิตภัณฑ์ “เจเล่” ครองมาร์เก็ตแชร์เกือบ 80% ส่งผลให้ SNNP ยังคงเป็น Market Leader ของตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) บริษัทมีกำไรสุทธิ 483.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4 ล้านบาท หรือ 2.6% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 470.7 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,367.5 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิของบริษัทยังเติบโตมาจากยอดขายของทุกผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ขณะเดียวกัน บริษัททยอยออกสินค้าใหม่วางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง และมีการวางกลยุทธ์ทางด้านการตลาด การปรับโฉมสินค้า รวมถึงการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงโครงสร้างภายในของบริษัทฯ และประสิทธิภาพการผลิตสินค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา SNNP ส่งสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความคึกคักให้ตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวเป็นอย่างมาก ได้แก่ Jele Fresshy กลิ่นแตงโม , โลตัสหนังไก่กรอบ 2 รสชาติใหม่ “รสลาบ – รสไก่ทอดสไตล์หาดใหญ่ , เจเล่ฟิตต์ (Jele Fitt) ในรูปแบบเยลลี่รสผลไม้ ,เบนโตะ แมกซ์ มาใน 3 รสชาติอร่อย “ทรงเครื่อง-ปรุงรส-ลาบ” ,เจเล่บิวตี้ 2 รสชาติใหม่ “สูตรไฟเบอร์-รสชาหมักคอมบูฉะ” , เมจิก ฟาร์ม เฟรช 2 รสชาติใหม่ “น้ำมะพร้าว – ชาเขียวกลิ่นน้ำผึ้งมะนาว , “เมจิก ฟาร์ม เฟรช คอมบูฉะ”, เบนโตะหมึกบดรส “ไทยคลาสสิคชิลลี่” และ เจเล่ ดับเบิ้ล เยลลี่ ไอซ์ โฉมใหม่
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) เปิดเผยถึงแนวโน้มของ SNNP ว่า กําไร 3Q24 ที่ 163 ลบ. (+2% y-y, +1% q-q) โดยรายได้ -6% y-y เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาสจากตลาดต่างประเทศ -43% y-y, -35% q-q โดยหลักจากเวียดนาม จากการปรับโครงสร้างการขายและยอมลดผู้ขายที่ขาดคุณภาพ ขณะที่ตลาดในไทย (75% ของรายได้) +7% y-y จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และเน้นช่องทาง Modern trade ที่ยังเติบโต สำหรับ Gross margin ยังทําได้ดีที่ 30.0% vs 3Q2328.8% จากทั้ง Product mix ยอดขายขนม (High margin) โตดีกว่า Beverage
รวมถึง การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน รวมถึง สินค้าใหม่มี Margin ระดับดี ขณะที่ SG&A/Sales ยังใกล้เคียงเดิม และสุดท้าย Tax rate ลดเหลือ 15% จาก 3Q23 18% คาดกําไร 4Q24F เพิ่มเล็กน้อย y-y, q-q ปัจจัยหลักติดตามการปรับโครงสร้างในเวียดนามระยะสั้น
4Q24F คาดกําไรราว 170 ลบ. +3% y-y, +3% q-q ตามช่วงฤดูกาล และ Margin คาดยังทําได้สูง หักล้างยอดขายต่างประเทศคาดยังลดลงคล้าย 3Q24 และคงกำไรปี 2024F 650 ลบ.(+2%)
อย่างไรก็ตาม ปรับลดกําไรปี 2025-26F ลงเฉลี่ย 2% เหลือ 698 (+7%) / 753 ลบ. (+8%) จากปัจจัยหลัก ลดรายได้เวียดนาม 2025-26F เหลือ 650 (+20%) /791 ลบ. (+10%) จากปี 24F กำหนด 541 ลบ. (-31% y-y) โดยมองเวียดนาม อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างการขาย จะใช้เวลา 2 ปี กลับสู่จุดสุงสุดเดิม ขณะเดียวกัน พยายามเร่งการเติบโตในประเทศ Potential โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ เป้ารายได้เพิ่ม 50% y-y จากปีก่อนที่ราว 40 ลบ. โดยเริ่มแต่งตั้ง Distributor รายที่ 2 และคาดจะเริ่มมีคำสั่งซื้อขายราวปลาย 4Q24F
ฝ่ายวิเคราะห์ คงแนะนำ “Neutral” โดยรอดูความคืบหน้าการจัดการในเวียดนาม เพื่อกำหนดจุดเข้าลงทุนต่อไปจาก TP25F ใหม่ 13.5 บาท อิง DCF (WACC 10.8%, TVGrowth 1.5%)
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision