หุ้นวิชั่น – ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ โดยเชื่อว่า SCB จะระมัดระวังกับการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 68 เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์ของ CGSI คาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัวเพียง 3% และปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงจะยังฉุดยอดสินเชื่อใหม่ของธุรกิจสินเชื่อรายย่อย อย่างไรก็ตาม มองว่า SCB น่าจะลดค่าใช้จ่ายปีละ 2 พันล้านบาทหลังขายเงินลงทุนในบริษัทเพอร์เพิล เวนเจอร์ส ณ สิ้นไตรมาส 3/67 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกหนุนการเติบโตของกำไรปี 68 ขณะที่ SCB กล่าวระหว่างประชุมนักวิเคราะห์ว่า จะยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อรายย่อย ซึ่งจะทำให้อัตราการสำรองหนี้สูญลดลงในปี 68-69
ในงวด 9 เดือนแรกของปี 67 SCB ใช้เกณฑ์ที่เข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันของบริษัท คาร์ด เอกซ์ (CardX, Not listed) ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อของ CardX ในไตรมาส 3/67 ลดลง 15.1% yoy และลดลง 14.3% จากสิ้นปี 66 ซึ่งช่วยยืนยันมุมมองของฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ที่เชื่อว่าการขยายธุรกิจสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันในขณะที่หนี้ครัวเรือนสูง มีความเสี่ยงสูงเกินไป
อย่างไรก็ตาม SCB ยังเดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่อยู่ภายใต้บริษัทออโต้ เอกซ์(AutoX, Not listed) ทำให้สินเชื่อกลุ่มนี้ในไตรมาส 3/67 เติบโตสูงถึง 97.3% yoy และเพิ่มขึ้น 53.4% จากสิ้นปี 66 นอกจากนี้ ยังขยายสินเชื่อดิจิทัลที่อยู่ภายใต้บริษัทอื่นในเครือ ทั้งนี้สินเชื่อดิจิทัลมีสัดส่วน 1.2% ของยอดสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/67
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการ EPS ในปี 67-69 ขึ้น 1.8-10.8% เพราะคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของ SCB จะเพิ่มขึ้น 5-21bp เป็น 3.98-4.03% ขณะที่ปรับสมมติฐานอัตราการสำรองหนี้สูญลงมาอยู่ที่ 178- 188bp ในปี 67-69 เนื่องจาก SCB เพิ่มความเข้มงวดเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อและตัดหนี้สูญอย่างต่อเนื่องช่วง ไตรมาส 4/66-ไตรมาส 3/67 นอกจากนี้ ยังปรับลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จาก 42.1-42.3% เป็น 40.6- 41.1% ในปี 68-69 สะท้อนการขายเงินลงทุนในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส ซึ่งจะส่งผลดีสุทธิในรูปของค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ลดลง
ดังนั้น หากอิงตามประมาณการใหม่ SCB จะมี ROE เพิ่มขึ้น จาก 8.9% ในปี 67 เป็น 9.4-9.9% ในปี 68-69 ขณะที่ยังคาดว่า SCB จะมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงที่ 80% ในปี 67-69
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับราคาเป้าหมายของ SCB เป็น 130 บาท จาก 111 บาท ซึ่งจะเท่ากับ P/BV 0.88 เท่าในปี 68 ทั้งนี้เป้า P/BV เพิ่มสูงขึ้นหลังจากปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปี 68-69 นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เพราะมองว่า EPS น่าจะเติบโตดีในอัตรา 7.3-7.4% ในปี 68-69 และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังน่าสนใจที่ 9.6-10.3% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม SCB จะมี downside risk หาก NPL พุ่งสูงขึ้นจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน รวมถึงการที่รายได้ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าคาด ส่วนปัจจัยบวกคือความสำ เร็จของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อรถ และมาตรการลดค่าใช้จ่ายของ SCB