หุ้นวิชั่น – บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานผลประกอบการ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 300.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.2% ต่อรายได้จากการขาย ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่ 319.1 ล้านบาทบริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,566.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจากการลดลงของรายได้จากการขายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก
รายได้จากการขายต่างประเทศอยู่ที่ 1,194 ล้านบาท ลดลง 13.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุจากการชะลอตัวของยอดขายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป เนื่องด้วยสภาพอากาศของประเทศคู่ค้าหลักในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและไม่ร้อนเมื่อเทียบกับสภาพอากาศในโซนยุโรปโดยรวม รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ ภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ การแข่งขันที่รุนแรงในบางประเทศโซนเอเชียและตะวันออกกลาง รวมถึงแผนการตลาดที่ยังต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับรายได้จากการขายในประเทศอยู่ที่ 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดในประเทศยังคงเป็นแบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti) รวมถึงผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) ซึ่งทำยอดขายได้ดีในช่องทาง Traditional Trade และ eCommerce ด้วยจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้โดยตรง ส่วนน้ำผสมวิตามินแบรนด์บลู (B’lue) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่องทาง Modern Trade
ภายในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีแผนการออกสินค้าใหม่ทั้งหมดมากกว่า 20 รายการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้รายได้จากการขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานผลประกอบการ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 300.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.2% ต่อรายได้จากการขาย ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่ 319.1 ล้านบาท
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,566.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจากการลดลงของรายได้จากการขายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก รายได้จากการขายต่างประเทศอยู่ที่ 1,194 ล้านบาท ลดลง 13.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุจากการชะลอตัวของยอดขายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป เนื่องด้วยสภาพอากาศของประเทศคู่ค้าหลักในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและไม่ร้อนเมื่อเทียบกับสภาพอากาศในโซนยุโรปโดยรวม รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ ภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ การแข่งขันที่รุนแรงในบางประเทศโซนเอเชียและตะวันออกกลาง รวมถึงแผนการตลาดที่ยังต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับรายได้จากการขายในประเทศอยู่ที่ 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดในประเทศยังคงเป็นแบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti) รวมถึงผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) ซึ่งทำยอดขายได้ดีในช่องทาง Traditional Trade และ eCommerce ด้วยจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้โดยตรง ส่วนน้ำผสมวิตามินแบรนด์บลู (B’lue) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่องทาง Modern Trade
ภายในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีแผนการออกสินค้าใหม่ทั้งหมดมากกว่า 20 รายการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้รายได้จากการขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง