PR9 ไตรมาส 3/67 กำไร 208.0 ล้านบาท โต 48.5%

           PR9 มีกำไรไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 208.0 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 48.5% รายได้เติบโตดี โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้รับบริการชาวต่างชาติ โดยเฉพาะตะวันออกกลางและ CLMV โบรกคาดแนวโน้มผล Q4/67 เติบโตต่อ มีแผนเปิดศูนย์การแพทย์แผนจีน PR9 มีศักยภาพการเติบโตสูงจากการขยายฐานผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง

           บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 รายงานผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 โดยไตรมาส 3 ของทุกปี มักจะมีการระบาดของหลายโรคเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเข้าสู่ฤดูฝน นอกจากนี้ในปีนี้การระบาดตามฤดูกาลเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งเร็วกว่าปี 2566 ส่งผลให้มีผู้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งโรงพยาบาลได้ขยายการตลาดไปยังกลุ่มผู้รับบริการชาวตะวันออกกลาง ประกอบกับชื่อเสียงในมาตรฐานการรักษาพยาบาลและการให้บริการที่มีคุณภาพของโรงพยาบาล จึงทำให้มีผู้รับบริการชาวตะวันออกกลางเข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ในไตรมาส 3 ปี 2567 นี้ การเติบโตหลักของรายได้มาจากกลุ่มผู้รับบริการชาวต่างชาติ ในขณะที่อัตราการเติบโตของผู้รับบริการชาวไทยยังคงอยู่ในระดับที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ยังคงเติบโตในเกณฑ์ต่ำ

           ผลประกอบการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,235.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 จาก 1,078.2 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2566 และมีกำไรสำหรับงวดสามเดือนในไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 208.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรร้อยละ 16.8 จากรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.5 จาก 140.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรร้อยละ 13.0 จากรายได้รวมของไตรมาส 3 ปี 2566

           ผลประกอบการสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 3,414.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 จาก 3,061.7 ล้านบาทในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 และมีกำไรสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 506.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรร้อยละ 14.8 จากรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.9 จาก 369.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรร้อยละ 12.1 จากรายได้รวมของงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566

           ทั้งนี้ รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยนอก (OPD) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นทั้งจากจำนวนผู้รับบริการ (No. of Visits) และรายได้เฉลี่ยของการรักษาต่อครั้ง (OPD revenue per visit) ในส่วนของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยใน (IPD) เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นทั้งในด้านรายได้เฉลี่ยของการรักษาต่อวันนอน (IPD revenue per patient day) รวมถึงจำนวนวันนอน (Patient days) และระยะเวลาการเข้าพัก (Length of Stay) ที่เพิ่มขึ้น

           การเปลี่ยนแปลงของรายได้ทั้ง 2 ส่วน เป็นผลจากการขยายการประชาสัมพันธ์ทั้งในกลุ่มผู้รับบริการชาวไทยและกลุ่มผู้รับบริการชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตะวันออกกลางและกลุ่ม CLMV รวมถึงการทำการตลาดร่วมกับบริษัทประกันและบริษัทคู่สัญญาต่างๆ

           อีกทั้ง คณะกรรมการบริษัท ได้มีการอนุมัติการจ่ายปันผล อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด  0.15 บาทต่อหุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 22 พฤศจิกายน 2567 และวันที่จ่ายปันผล : 06 ธันวาคม 2567

           บล.เอเชียพลัส ระบุถึง  ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ PR9 ในงวด Q4/67 โดย คาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ YoY และ QoQ ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากปัจจัยเชิงฤดูกาลที่มักส่งผลให้มีผู้เข้ารับบริการตรวจสุขภาพจำนวนมาก โดยในอดีตเคยมี ผู้ใช้บริการสูงถึง 400-500 คน/วัน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการในศูนย์ศัลยกรรมความงามและศูนย์เลสิค ควบคู่กับการขยายตัวอย่าง ต่อเนื่องของกลุ่มผู้ป่วยโรคยากซับซ้อนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในด้านการพัฒนา ศักยภาพการให้บริการ PR9 มีแผนเปิดศูนย์การแพทย์แผนจีนภายในงวด Q4/67 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตและได้เตรียมความพร้อมด้าน บุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

           ขณะเดียวกัน PR9 ได้มีการประชาสัมพันธ์ศูนย์ผ่าตัดหัวใจที่มีจุดเด่นด้านทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสถาบัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี สะท้อนจากจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัดที่เพิ่มขึ้นในงวด Q3/67 ทั้งนี้การพัฒนาศักยภาพการให้บริการดังกล่าว คาดว่าจะช่วยยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยและเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ

           ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินว่า PR9 มีศักยภาพการเติบโตสูงจากการขยายฐานผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีค่ารักษาพยาบาลต่อหัวสูงประกอบกับการมีมาตรฐานการรักษาในระดับสากลและอัตราค่าบริการที่ สมเหตุสมผล คาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติให้เพิ่มขึ้นเป็น 19-20% จากปัจจุบันที่ 18% ตามเป้าหมายของบริษัท ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 28.40 บาท ให้น้ำหนักการลงทุน “Outperform”

 

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SEAFCO ยืนหนึ่งฐานราก ขึ้นค่าแรงไม่เป็นปัญหา

SEAFCO ยืนหนึ่งฐานราก ขึ้นค่าแรงไม่เป็นปัญหา

BIZ ลุ้นเซ็นงานใหม่ 500 ล้านบาทใน Q1/68 หนุนรายได้โต 10%

BIZ ลุ้นเซ็นงานใหม่ 500 ล้านบาทใน Q1/68 หนุนรายได้โต 10%

GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

UAC รับสินเชื่อ 100 ลบ. จาก ธ.อิสลาม เดินหน้าลงทุนต่อในอินโดฯ และลาว

UAC รับสินเชื่อ 100 ลบ. จาก ธ.อิสลาม เดินหน้าลงทุนต่อในอินโดฯ และลาว

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด