“แอสเซทไวส์” หรือ ASW ตอกย้ำความแข็งแกร่ง กางผลงาน 9 เดือนแรกปี 67 กวาดยอดขาย 14,578 ล้านบาท คิดเป็น 82% ของเป้าพรีเซลทั้งปี โครงการแนวราบ-คอนโดภูเก็ต THE TITLE CIELO RAWAI มาแรงดันยอดขายต่อเนื่อง คาดปลายปียอดนักท่องเที่ยวพุ่ง หนุนกำลังซื้อในประเทศ โอกาสดีอสังหาเมืองท่องเที่ยว เตรียมส่งแฟล็กชิปโปรเจกต์ต้อนรับไฮซีซั่น “อควารัส จอมเทียน พัทยา” โครงการคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence รองรับดีมานด์คอนโดพักตากอากาศ
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย. 2567) บริษัทมียอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด 14,578 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 24% และคิดเป็น 82% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีซึ่งตั้งไว้อยู่ที่ 17,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลงานดังกล่าวมาจากโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในไตรมาส 2/2567 และยังคงสร้างยอดขายต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล (The Arbor Ramintra-Watcharapol) โครงการบ้านเดี่ยวบรรยากาศธรรมชาติ ติดถนนจตุโชติ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และโครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี (CHANN The Riverside Boromratchachonnani) บ้านเดี่ยวทำเลศักยภาพริมแม่น้ำท่าจีน ติดถนนใหญ่ ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มูลค่าโครงการรวม 1,800 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่สร้างยอดขายโดดเด่น คือ โครงการเดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE CIELO RAWAI) โครงการ Leisure Condominium ในทำเลภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ที่ได้รับการตอบรับยอดเยี่ยมจนมียอดขาย (Take up rate) ถึงกว่า 90% หลังเปิดขายได้เพียง 1 สัปดาห์
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ทุกช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเวลาสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หนึ่งใน Key Engine ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ก.ย.-ธ.ค.) นี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 12.22 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 20% และคาดว่าจะสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศประมาณ 6.53 แสนล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 29% ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าแนวโน้มดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริโภคในประเทศมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่งขึ้น และเป็นโอกาสอันดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะตามหัวเมืองท่องเที่ยว ในการเข้าถึงตลาดชาวต่างชาติที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยระหว่างท่องเที่ยวระยะสั้น และพักอาศัยแบบ Long stay ตามจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างอีอีซีและภูเก็ต
สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 นี้ บริษัทยังมุ่งหน้าตามกลยุทธ์ The New Frontier พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอีอีซีและภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศ โดยเตรียมเปิดตัวโครงการเรือธง (Flagship project) คือ โครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) โครงการคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence ขนาด 5-3-76.1 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใกล้ถนนสุขุมวิทและชายหาดจอมเทียน เป็นคอนโดมิเนียมโครงการใหม่สูง 44-47 ชั้น รวม 606 ยูนิต พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ All Generations ด้วย Aqua Park ขนาดใหญ่ ทั้งสระว่ายน้ำ 4 สระ , Kids Club , Wellness ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมส่วนกลางไฮไลท์ Cloud Facilities ที่จะสร้างความประทับใจเป็นความทรงจำที่ดีให้ผู้พักอาศัย ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมสำหรับพักตากอากาศ
นอกจากนี้ จากกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง บริษัทอาจพิจารณาเปิดโครงการใหม่ในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มเติม คาดจะเปิดเผยรายละเอียดได้เร็วๆ นี้
สำหรับบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 68 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR), แบรนด์ ฌาน (CHANN) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 98,105 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 52 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 16 โครงการ และ ณ ไตรมาส 2 ปี 2567 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 23,678 ล้านบาท
