หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.ฟิลลิป ระบุว่า ในปี 2568 ทาง MAAT คาดเม็ดเงินโฆษณาทางทีวีจะหด 4.5% แต่ Content ที่แข็งแกร่งจากการเปิดตัวละครกว่า 10 เรื่องทั้งช่วง 19.00 น. และ 20.30 น. ที่น่าสนใจ รวมถึง OneD Original อีก 4 เรื่อง ไปต่อยอดทางออนไลน์ที่มีการเติบโตสูงและ Idol Marketing ที่ยังเพิ่มการเติบโตได้ ปรับคาดปี 2568 กำไรลงเป็น 433 ล้านบาท โต 2.9% และราคาพื้นฐาน 3.50 บาท โดยมี Div. Yield ที่ 6.3% ราคาหุ้นปรับตัวลงมาก ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
ปี 2567 แม้ดีสุดในกลุ่ม แต่หลีกเลี่ยงเม็ดเงินโฆษณาหดตัวไม่ได้
แม้ดีสุดในกลุ่ม แต่ก็ไม่สามารถชนะอุตสาหกรรมโฆษณาทางทีวีที่หดตัว 2.8% y-y ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท เทียบอุตสาหกรรมรวมที่โต 4% ที่ 1.18 แสนล้านบาท (ข้อมูลจาก MAAT)
ในส่วนของ ONEE มีรายได้โฆษณาปี 2567 ที่มีสัดส่วนในรายได้สูงที่ 41.7% หดตัว 2.4% ในขณะที่ออนไลน์/ลิขสิทธิ์และวิทยุยังโตได้
- รายได้ในกลุ่ม Content Marketing +1.5%
- รายได้ในกลุ่ม Idol Marketing +11.9% จากทุกส่วนที่โตขึ้นทั้งอีเวนต์ บริหารศิลปิน และขายสินค้า
- รายได้กลุ่ม Production –46.4% จากปรับกลยุทธ์หันมาผลิต Content เป็นของตัวเองมากขึ้น ซึ่งสามารถต่อยอดไปในหลากหลายช่องทางมากกว่าการรับจ้างผลิตเพียงอย่างเดียว ทำให้รับจ้างผลิต –56.5%
แม้เช่าสตูดิโอสูงขึ้น ทำให้รายได้ขาย/บริการ +2.8% ที่ 6,610 ล้านบาท ต้นทุน +3.3% จากการเติบโตของกลุ่ม Idol Marketing ที่มี GPM ต่ำกว่ากลุ่ม Content Marketing อีกทั้งยังมีละครใหญ่กลุ่ม OneD Original ที่มีต้นทุนผลิตสูง และ SG&A +8% จากค่าใช้จ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ พรีเมียมคอนเทนต์ใหม่ การเพิ่มขึ้นของพนักงาน การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ และค่าเสื่อมจากการใช้ระบบ ERP
ทำให้กำไรสุทธิ -16.6% ที่ 421 ล้านบาท โดยเฉพาะ 4Q67 ที่มีละครใหญ่ถึง 3 เรื่อง แต่เม็ดเงินชะลอตัว ทำให้กำไรหดตัว 40.8%
ปี 2568 เม็ดเงินโฆษณาที่ยังอ่อนตัวลงต่อเนื่องจากปี 2567 แม้อุตสาหกรรมรวมเติบโต
สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ได้รายงานเม็ดเงินโฆษณารวมในปี 2567 โต 4% ที่ 1.18 แสนล้านบาท
กลุ่มที่ปรับตัวลง:
- ทีวี -3%
- วิทยุ -8%
- หนังสือพิมพ์ -35%
- นิตยสาร -2%
กลุ่มที่ปรับตัวขึ้น:
- โรงภาพยนตร์ +28%
- สื่อนอกบ้าน +1%
- สื่อเคลื่อนที่ (บนขนส่งมวลชน) +18%
- สื่อในศูนย์การค้า +11%
- สื่ออินเทอร์เน็ต +14%
โดยสื่ออินเทอร์เน็ตมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก 27% เป็น 32% ในขณะที่ทีวีลดลงจาก 49% เหลือ 45%
ในปี 2568 ทาง MAAT คาดเม็ดเงินโฆษณารวม +3.9% ที่ 1.23 แสนล้านบาท โดยสื่อที่หดตัวยังคงหดตัวต่อเนื่อง ส่วนสื่อที่เติบโตยังคงเติบโตต่อเนื่อง
- ทีวี -4.5% สัดส่วนลดลงเป็น 41% เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจและหนี้ภาคครัวเรือนที่สูง ทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจจึงระมัดระวังการใช้จ่าย และพฤติกรรมที่อยู่บนออนไลน์มากขึ้นผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้ชัดเจนในอัตราค่าโฆษณาที่ถูกกว่า
- สื่ออินเทอร์เน็ต +14.5% โดยสัดส่วนเพิ่มเป็น 35%
พึ่งพิงรายได้โฆษณาน้อยสุด แต่ก็ต้องรักษาสมดุลกับธุรกิจใหม่
ONEE พึ่งพิงรายได้จากโฆษณาน้อยที่ 43% ในปี 2567 เมื่อเทียบกับทีวีดิจิทัลอย่าง WORK ที่ 70% และ BEC ที่ 81% แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากเม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัว แม้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
ในปีนี้ ในการจัดงาน “ปรากฏการณ์ One สนั่นจอ 2025” ได้เปิดตัวละครที่จะออกอากาศทั้งละครช่วง 19.00 น. ที่ ONEE ทำเรตติ้งสูงสุดมาต่อเนื่อง และ 20.30 น. มีกว่า 10 เรื่อง รวมถึงละครฟอร์มใหญ่ “ทายาทหมายเลข 1” และละครในโปรเจกต์ OneD Original 4 เรื่อง
- TASTE เด็กเจนแซ่บ
- 9 Years of You แต่ละปีที่มีเธอ
- ฆาตกรรมจำไม่ได้
- ทวิญ
ซึ่งเป็น Content Premium ที่จะนำไปต่อยอดในธุรกิจ Online ทั้ง App OneD ทั้ง AVOD และ SVOD และ OTT พาร์ทเนอร์ รวมถึงนำศิลปินในสังกัดกว่า 300 คน ต่อยอด Idol Marketing ทั้งอีเวนต์/คอนเสิร์ต ขายสินค้า และพรีเซนเตอร์หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสินค้าต่าง ๆ
ในปีนี้จะมีศิลปินหน้าใหม่ (One31 New Face) อีก 16 คน และ Change2561 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยก็มีโครงการหานักแสดง “PITBABE 2” เพื่อหารายได้ Idol Marketing เพิ่ม แทนที่เม็ดเงินโฆษณาที่ยังได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัวอยู่
แต่ก็ต้องรักษาสมดุลระหว่าง Idol Marketing กับ Content Marketing เพื่อไม่ให้กระทบกับอัตรากำไร เพราะ Idol Marketing มีอัตรากำไรต่ำกว่า Content Marketing
ราคาพื้นฐานปี 68 ที่ 3.50 บาท ปรับคำแนะนำขึ้น “ซื้อ”
ยังมอง Content ที่แข็งแรงยังสามารถดึงเม็ดเงินโฆษณาทางทีวีที่มีแนวโน้มชะลอตัวไว้ได้ แล้วไปต่อยอดไปในสื่อออนไลน์และ OTT พาร์ทเนอร์ตามพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึง Idol Marketing ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอยู่
ยังมองข้อดีที่มีความหลากหลายของแหล่งรายได้ และพึ่งพิงเม็ดเงินโฆษณาน้อยกว่า WORK และ BEC ทางฝ่ายได้ปรับคาดการณ์ในปี 2568 ลง มีรายได้ที่ 6,732 ล้านบาท ตามอุตสาหกรรมโฆษณา และกำไรสุทธิที่ 433 ล้านบาท +2.9% และคาดว่าจะจ่ายปันผลของปี 2568 ที่ 0.17 บาท ให้ผลตอบแทนจากปันผลที่ 6.3% ดีกว่าทีวีดิจิทัลอีก 2 ช่อง
ลดราคาพื้นฐานเป็น 3.50 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ทยอยซื้อ” เป็น “ซื้อ”