หุ้นวิชั่น – L&E เผยโค้งสุดท้ายของปีโตกว่า Q3/67 และโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 68 ปัจจัยสนับสนุนจากการทยอยรับรู้รายได้งานในมือ และล่าสุดคว้างานใหม่โคมไฟถนน LED 60,000 ชุด จากการไฟฟ้านครหลวง นอกจากนี้ โอกาสได้งานบัญชีนวัตกรรมจากภาครัฐ ควบคู่บุกช่องทางจัดจำหน่าย และการพัฒนาสินค้านวัตกรรมมากขึ้น รวมทั้ง LEM & LES ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ L&E เริ่มทยอยกลับมาผลิตสินค้าจำนวนมากเพื่อส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกา โดยเน้นปรับปรุงเครื่องจักรลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มช่องทางการขาย ชูความแข็งแกร่งรับมือสถานการณ์ตลาดโลกผันผวน
นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโค้งสุดท้ายของปีสัญญาณดี จากครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ทิศทางไตรมาส 3 เริ่มปรับตัวดีขึ้น และมีโมเมนตัมที่ดีมาถึงไตรมาส 4/67 จากปัจจุบันงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท เตรียมทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 60% และในปีหน้า 40% อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงติดตามงานโครงการมิกซ์ยูสใหญ่ๆ 2-3 โครงการที่อยู่ใน Backlog แล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งมอบงานให้แล้วเสร็จทันภายในปีนี้ หรือเลื่อนไปรับรู้ในช่วงต้นปี 68 ทำให้ภาพรวมรายได้ทั้งปีมองว่ายังทรงตัว แต่คาดว่ากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ล่าสุด L&E ชนะงานประมูลงานโคมไฟถนน LED 60,000 ชุด จากการไฟฟ้านครหลวงฯ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์รับรู้รายได้ 30% ในปี 67 ส่วนที่เหลือ 70% ในปี 68 อีกทั้ง บริษัทฯ มีโอกาสคว้างานใหม่ต่อเนื่อง อาทิ งานบัญชีนวัตกรรมจากภาครัฐ รวมทั้ง งานโครงการภาคเอกชนที่มีการเดินหน้าโปรเจ็กต์ใหม่ ควบคู่ให้ความสำคัญในการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย และการพัฒนาสินค้านวัตกรรมมากขึ้น
ขณะที่ บริษัท แอล แอนด์ อี แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ LEM และ บริษัท แอล แอนด์ อี โซลิดสเตท จำกัด หรือ LES ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ L&E เริ่มทยอยกลับมาผลิตสินค้าจำนวนมากเพื่อส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกา สนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปี และที่สำคัญที่สุดคือ การที่โรงงาน LEM & LES ลดต้นทุนต่อเนื่อง มีการเพิ่มกำลังผลิตเครื่องจักรหลักที่สำคัญ จะเห็นผลได้ในปีหน้าอย่างเป็นนัยสำคัญ เนื่องจากการปรับปรุงทำให้เพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้า OEM & ODM ให้แก่ลูกค้ารายใหญ่ที่มีอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โคม panel ดาว์ไลท์ ไฮเบย์ ไฟถนน เป็นต้น เพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้แก่บริษัท ทั้งราคา และคุณภาพที่ลูกค้าเชื่อมั่น บริการดี รวดเร็ว ตรงตามความคาดหวังของลูกค้า นอกจากนี้มีการลงทุนในเครื่องจักรใหม่เพื่อผลิตสินค้าที่มียอดสั่งซื้อสูงเพื่อทดแทนการนำเข้า เช่น ไฟเส้น LED Strip Lights, อุปกรณ์ควบคุม LED ให้เป็น Smart Lighting เป็นต้น
นายอนันต์ กล่าวเพิ่มเติมถึง การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน จากการที่ L&E มี จุดแข็งเป็น Lighting Solution Provider ในงานโครงการ เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก แม้ในสถานการณ์โลกผันผวน ทั้งปัจจัยกระทบเรื่องสงคราม และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในด้านการผลิต รวมทั้ง ประสบการณ์ที่มีก่อนหน้านี้ ในการผลิตสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อส่งออกไปสหรัฐฯ จะทำให้ L&E ได้เปรียบกว่าคู่แข่งขัน เรามองว่าเป็นโอกาสมากกว่าภัยคุกคาม รวมทั้ง เพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ เช่น ช่องทางการขายผ่านออนไลน์ เป็น Platform เชื่อมต่อระหว่างลูกค้ากับ L&E
นอกจากนี้ การมุ่งเน้นสินค้านวัตกรรมที่แตกต่าง ตอบสนองความต้องการลูกค้าและไลฟ์สไตล์ ยุค 5G ซึ่งตอนนี้ L&E มีสินค้าที่เป็น IoT+AI ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ และยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตธุรกิจที่เกี่ยวกับสินค้า IoT ในด้านแสงสว่าง และระบบควบคุมแสงสว่างอาคาร จากประสบการณ์งานโครงการที่ L&E สั่งสมมาในงานโครงการใหญ่ ๆ เช่น โครงการ One Bangkok, Park Silom, Bytedance HQ, Data Center KTB, อาคารจอดรถ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นต้น ทำให้เกิดการพัฒนาสินค้าโคมไฟอัจฉริยะรูปแบบใหม่ง่ายต่อการออกแบบและติดตั้ง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทดสอบฟังก์ชั่นก่อนใช้งาน และมีธุรกิจใหม่คือ Entertainment Lighting สนับสนุนงานอีเวนท์ขนาดใหญ่ครบวงจร ทัดเทียมมาตรฐานงานต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังพร้อมเดินหน้าตอบสนองกับเป้าหมายของภาครัฐในการพัฒนาเมืองใหญ่ มุ่งสู่ Smart City ขับเคลื่อนองค์กรเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน ดำเนินธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และเที่ยงตรง