หุ้นวิชั่น-KCG ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ทะลุสถิติใหม่ พร้อมเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ส่วนปี 2567 คาดรายได้ที่ 7,600 ล้านบาท ส่วนผลงานไตรมาส4/67 ไฮซีซั่น เทศกาลขายของดี โชว์ศักยภาพ ESG ครองใจนักลงทุน
นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตในอัตราสูงระดับ “High Single Digit” เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 7,600 ล้านบาท นับเป็นการสร้างสถิติรายได้สูงสุดอย่างต่อเนื่อง
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถจำแนกออกเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่
-
- ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products): ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เนย (Butter) และเนยแข็ง (Cheese) รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่แปรรูปมาจากนม
- ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Food and Bakery Ingredients: FBI):ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมของอาหาร (Food Ingredients) ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ประกอบการทำเบเกอรี่ สารเสริมคุณภาพอาหารต่างๆ ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้เข้มข้น รวมถึงอุปกรณ์ในการทำเบเกอรี่ และอุปกรณ์ประกอบอาหาร
- ผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits): ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์คุกกี้ แครกเกอร์ และเวเฟอร์
โดย KCG มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุม นอกจากนี้ บริษัทยังเร่งขยายช่องทางการขายผ่านอีคอมเมิร์ซ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
ในด้านตลาดส่งออก KCG กำลังมองหาโอกาสการเติบโตในหลายภูมิภาคสำคัญ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมถึงญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีความสำคัญต่อกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทด้วย
สำหรับไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ KCG ได้เพิ่มกำลังการผลิตและการกระจายสินค้าเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง (HORECA) ทั้งนี้ ไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่บริษัทฯ ได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆ ในปีเดียวกัน โดยแนวโน้มภาพรวมราคาต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยทั้งปี 2567 จะปรับลดลงได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยทั้งปี 2566 ในขณะที่แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 จะมีปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง อัตราการใช้กำลังการผลิต (Capacity Utilization Rate) ที่เพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดใช้งานศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park เต็มที่แล้วในไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา แต่ในช่วงรอยต่อของการเปิดใช้งาน KCG Logistics Park ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการเตรียมความพร้อมในการจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขนย้ายวัตถุดิบและสินค้าจากคลังสินค้าภายนอกมายัง KCG Logistics Park อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะได้รับผลประโยชน์จาก KCG Logistics Park ได้เต็มที่ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป ทำให้ บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้และตลอดปี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ KCG ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยในปีนี้ นอกจากได้รับคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ ให้เป็น 1 ในหลักทรัพย์ที่น่าลงทุนกลุ่ม ESG Emerging ปี 2567 ที่ได้เข้าไปอยู่ในทำเนียบ ESG 100 เป็นครั้งแรก บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับรางวัล Investors’ Choice Award 2567 ด้วยคะแนนเต็ม 100 และได้รับคะแนน CGR ระดับ 5 ดาว ‘ดีเลิศ’ ตั้งแต่ปีแรก หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
อีกทั้งล่าสุดยังได้ “การได้รับคะแนน SET ESG Ratings ระดับ A ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของบริษัท KCG โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา KCG ได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการ ESG หรือ Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) อย่างจริงจัง สะท้อนผ่านยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของ KCG หรือ 7 Business Pillars ซึ่งครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน การดูแลพนักงานและสังคม ไปจนถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล โดยความสำเร็จที่เกิดขึ้นในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ KCG ในการดำเนินธุรกิจด้วยความตระหนักถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มบนพื้นฐานของการพัฒนาความยั่งยืน ซึ่งผลจากแนวคิดนี้ถูกพิสูจน์ผ่านความสำเร็จต่างๆ ในปีที่ผ่านมา การได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ A ส่งท้ายปีในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท KCG และพนักงานทุกคน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่การสร้างธุรกิจและสังคมที่ยั่งยืน