บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ประสบความสำเร็จในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เข้าสู่ประเทศไทยเป็นเที่ยวแรกของ บริษัท กัลฟ์ แอลเอ็นจี จำกัด เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 โดยได้นำเข้าก๊าซ LNG ล็อตแรก เพื่อจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ ความสำเร็จในการนำเข้าก๊าซ LNG ครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการดำเนินตามนโยบายเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติของรัฐที่มุ่งส่งเสริมการแข่งขัน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดหาแหล่งพลังงาน เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย
บริษัท กัลฟ์ แอลเอ็นจี จำกัด (Gulf LNG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่กัลฟ์ ถือหุ้น 100% ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper License) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการนำเข้าก๊าซ LNG ปริมาณ 6.4 ล้านตันต่อปี เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าในเครือ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า IPP ทั้งโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) และโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ศรีราชา (GSRC) โครงการโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 19 โครงการ และลูกค้าอุตสาหกรรม
สำหรับเที่ยวเรือ LNG ลำแรกนี้ Gulf LNG ได้ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG กับบริษัท ADNOC Trading โดยใช้บริการสถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุดแห่งที่ 2 (LMPT2) ของบริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด (PE LNG) ในการแปรสภาพของเหลวเป็นก๊าซ และส่งเข้าระบบท่อส่งก๊าซของ ปตท.เพื่อส่งไปยังโรงไฟฟ้าในเครือกลุ่มบริษัทกัลฟ์ต่อไป
นอกจากนี้กัลฟ์มีแผนที่จะขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติที่กำลังมองหาผู้ให้บริการรายใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 โดยแบ่งเป็นการถมทะเล ซึ่งดำเนินการเรียบร้อยไปแล้วมากกว่า 95% และในส่วนของการพัฒนาโครงการสถานีรับ-จ่าย ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Terminal) คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570 เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมและความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในอนาคต
[PR News]