EP ขายวินด์ฟาร์มเวียดนาม รับทรัพย์ 4.62 พันลบ.

          หุ้นวิชั่น – บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ประกาศบิ๊กดีลส่งท้ายปลายปี 67 บอร์ดไฟเขียวขายวินด์ฟาร์มเวียดนาม 2 แห่งขนาดกำลังผลิตรวม 99 MW ให้กับ BCPGI มูลค่ากว่า 4.62 พันล้านบาท

นายยุทธ  ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ EP Group (HK) Co., Ltd.  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของหุ้นทั้งหมด โดยบริษัท อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (ETP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EP จำหน่ายหุ้นสามัญของ EPVN W2 (HK) Co., Ltd. (EPVN) ที่ EP-HK ถืออยู่จำนวน 100% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ให้แก่ BCPG Investment Holdings Pte. Ltd. (BCPGI) เป็นจำนวนเงิน 3,394,932 ล้านดองเวียดนาม (หรือประมาณ 4,627.29 ล้านบาท)

 โดย EPVN ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 99 เมกะวัตต์ (MW) ในอำเภอ Chu Prong จังหวัด Gia Lai สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้แก่

(1) โครงการ Che Bien Tay Nguyen Wind Power Plant Project (โครงการ CBTN) มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 49.5 เมกะวัตต์ (MW) โดยมี Chu Prong Gia Lai Wind Power Joint Stock Company (CBTN) เป็นเจ้าของโครงการ โดยที่ EPVN ถือหุ้นในสัดส่วน 99.7845% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ CBTN

(2) โครงการ Phat Trien Mien Nui Wind Power Plant Project (โครงการ PTMN) มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 49.5 เมกะวัตต์ (MW) โดยมี Chu Prong Gia Lai Wind Electricity Joint Stock Company (PTMN) เป็นเจ้าของโครงการ โดยที่ EPVN ถือหุ้นในสัดส่วน 99.871% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ PTMN

โดยทาง EP-HK ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นสำหรับธุรกรรมการซื้อหุ้นดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567  โดยมีราคาซื้อขายคือ 3,394,932 ล้านดองเวียดนาม (หรือประมาณ 4,627.29 ล้านบาท) หรือคิดเป็นมูลค่าตามโครงการโรงไฟฟ้า โครงการละ 1,697,466 ล้านดองเวียดนาม (หรือประมาณ 2,313.65 ล้านบาท)

นายยุทธ เปิดเผยว่า การลงนามซื้อขายในครั้งนี้ จะทำให้ EP มีเม็ดเงินเข้ามากว่า 4,600 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอต่อการจัดการภาระหนี้สินของบริษัทฯ ได้ทั้งหมด และบริษัทฯ ยังมีโครงการไฟฟ้าพลังงานลมคงเหลืออีก 2 โครงการรวม 60 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว 1 โครงการ และกำลังจะ COD ภายในปีนี้อีก 1 โครงการ โดยหลังจากนี้บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions Precedent) ให้เสร็จสิ้นก่อนการชำระเงินงวดแรก โดยเฉพาะเร่งรัดการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้ง 2 โครงการ ให้ได้ภายในต้นปี 2568 นี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้เม็ดเงินงวดแรก เข้ามาไม่ต่ำกว่า 1,780 ล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากขนาดของรายการดังกล่าวเท่ากับร้อยละ 48.62 จึงเข้าข่ายเป็นการทำรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ประเภทที่ 2 มีขนาดรายการที่มีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ตามเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ บริษัทฯ จึงมีหน้าที่จัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วันนับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะมีสารสนเทศตามที่ประกาศรายการได้มาจำหน่ายไปกำหนด

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

WHA ย้ำศักยภาพนิคมฯ ไทย ลุยกรีนโลจิสติกส์-อุตสาหกรรมใหม่ปี 68

WHA ย้ำศักยภาพนิคมฯ ไทย ลุยกรีนโลจิสติกส์-อุตสาหกรรมใหม่ปี 68

SC ขายหุ้น SC L1 ให้โตเกียวทาเทโมโนะ ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

SC ขายหุ้น SC L1 ให้โตเกียวทาเทโมโนะ ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

ปตท. คว้าอันดับ 1 โลกความยั่งยืนจาก S&P Global พร้อมมุ่งมั่นเติบโตยั่งยืนระดับโลก

ปตท. คว้าอันดับ 1 โลกความยั่งยืนจาก S&P Global พร้อมมุ่งมั่นเติบโตยั่งยืนระดับโลก

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร TSF กับพวกรวม 6 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีทุจริต

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร TSF กับพวกรวม 6 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีทุจริต

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด