บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ส่งสัญญาณแนวโน้มผลการดำเนินงาน Q3/67 สดใส ยาวไปจนถึงโค้งสุดท้าย Q4/67 เข้าสู่ไฮซีซั่น อานิสงส์ท่องเที่ยวคึกคัก ทั้งชาวต่างชาติ-ไทย หนุนจำนวนผู้โดยสารเพิ่ม การจราจรทางยกระดับพุ่ง ฟากผู้บริหาร “ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย” ยิ้มรับสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ย้ายกลับดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ประเมินรายได้ปี 67 เติบโต ตามแผน
ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 มีทิศทางสดใส จากปริมาณการจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย เข้ามาใช้บริการ สนับสนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง เทียบไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากสายการบินนานาชาติเพิ่มมากขึ้น จากการกลับมาใช้อาคาร 1 สนามบินดอนเมือง ที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ทำให้ปริมาณการจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองสูงขึ้น
ล่าสุด ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ย้ายทุกเที่ยวบินมาให้บริการที่ “ดอนเมือง” เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค คาดว่าจะทำให้ปริมาณการจราจรบนทางยกระดับเพิ่มขึ้น สนับสนุนรายได้ในไตรมาส 4 /2567ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
“มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้รวมในปี 2567 จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันคาดว่าจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 116,000 คันต่อวัน จากปี 2566 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 106,907 คันต่อวัน”
กรรมการผู้จัดการ DMT กล่าวว่า พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ของภาครัฐ โดยมีเป้าหมาย คือ โครงการ M82 (โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว) โครงการ M5 (ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน) ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 และในปี 2568 ตามลำดับ
ขณะเดียวกันยังคงแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ เพื่อสร้าง New S-Curve สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นฃ
อีกทั้ง DMT ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนด้าน ESG ในการใช้พลังงานทดแทนครบวงจรต่อเนื่องโดยในไตรมาส 3/2567 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในการติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงานบนโคมไฟถนนบนทางยกระดับ 1,540 ต้น รวมทั้งจะมีการนำวัสดุลดความร้อนมาใช้ในการบำรุงรักษาทางยกระดับ เช่น สีลดโลกร้อน ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (Hydraulic Cement หรือปูนลดโลกร้อน) การดำเนินงานขับเคลื่อนด้าน ESG อย่างต่อเนื่องเป็นส่วนช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง และมีกำไรเพิ่มขึ้น
อนึ่งภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 505.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 486.72 ล้านบาท จากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น และได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2567 ไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท