CRC ไฮซีซั่น-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดัน แนะ”ซื้อ” เป้า 41 บ.

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัดสรุปสาระสำคัญจากการประชุม Opportunity Day ของ Central Retail Corporation (CRC) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567

แนวโน้ม SSSG ในช่วง 4Q67 (จากตุลาคมถึงธันวาคม 2567) SSSG (Same Store Sales Growth) ของธุรกิจในไทยเป็นบวก 1-3% YoY โดยดีขึ้นจาก -2% YoY ใน 3Q67 โดยธุรกิจแฟชั่นเติบโต 4-5% YoY (จาก 3Q67 ที่ทรงตัว) จากการเข้าสู่ High Season และการปรับปรุงสาขา Flagship ของเซ็นทรัลชิดลม ซึ่งจะเปิดเต็มรูปแบบในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ส่วนธุรกิจ Hardline ลดลง 4-6% YoY (จาก -7% ใน 3Q67) และธุรกิจ Food เติบโต 1-3% YoY ใกล้เคียงกับ 3Q67

แผนการขยายสาขาใน 4Q67 บริษัทจะเปิดสาขาใหม่ในธุรกิจ Hardline และ Food ได้แก่ ไทวัสดุ 1 สาขา, Tops 6 สาขา, GO Wholesale 1 สาขาในไทย, และในเวียดนามจะเปิด GO! Mall 2 สาขา และ Mini go! 3 สาขา

การเติบโตในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในปี 2568 ที่ 4-6% YoY หรือไม่น้อยกว่า 2 เท่าของ GDP ประเทศไทย โดยการเติบโตส่วนใหญ่จะมาจากการเปิดสาขาใหม่และการรีโนเวทสาขาของไทวัสดุและ Go Wholesale รวมถึงการขยายสาขา Go ในเวียดนาม

การลงทุน (CAPEX) คาดการณ์ CAPEX ในปี 2568 อยู่ที่ 2.2-2.4 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2567 โดยจะเน้นการลงทุนในไทยและเวียดนาม ส่วนในยุโรปบริษัทมีแผนขยายพื้นที่ห้างรีนาเซนเต มิลาน และสร้าง “Beauty Hall” ขนาดใหญ่ที่สุดในมิลาน คาดเปิดในปี 2570

หนี้สินและการบริหารการเงิน ณ สิ้น 3Q67 บริษัทมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสูงประมาณ 93,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปลายปี 2566 โดยได้มีการกู้เงินเพื่อขยายสาขา แต่ยังรักษาอัตราส่วน Net debt/EBITDA และ Net debt/equity อยู่ในระดับต่ำกว่ากำหนดของบริษัท (3.0x และ 2.5x ตามลำดับ) ใน 3Q67 บริษัทใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นแหล่งเงินลงทุนมากขึ้น และมีการปรับหนี้สินจากอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ (85:15) เพื่อรับผลประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง

แนวโน้มผลประกอบการ คาดว่าใน 4Q67 กำไรจะเติบโตโดดเด่น QoQ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากฤดูกาลที่ดีขึ้นและการปรับปรุงสาขาต่างๆ เสร็จสิ้น รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น โดยคาดว่ากำไรปกติใน 4Q67 จะทรงตัว YoY จากฐานที่สูงในปีก่อน

มุมมองของนักวิเคราะห์ คาดว่ากำไรปกติในปี 2567 จะอยู่ที่ 8,300 ล้านบาท (+2% YoY) และในปี 2568 จะอยู่ที่ 9,200 ล้านบาท (+11% YoY) คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเหมาะสมที่ 41.00 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากการเข้าสู่ High Season และแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฟกัส KTB-KBANK สินเชื่อรายใหญ่-รัฐแกร่ง

โฟกัส KTB-KBANK สินเชื่อรายใหญ่-รัฐแกร่ง

KSS คาด SET “Sideways up” ส่องต้าน 1400 จุด แนะ BTS, CRC, KTB

KSS คาด SET “Sideways up” ส่องต้าน 1400 จุด แนะ BTS, CRC, KTB

จับตาหุ้น ‘ค้าปลีกไอที’ รับเต็ม E-Receipt  โบรกเคาะ ADVICE เด่น

จับตาหุ้น ‘ค้าปลีกไอที’ รับเต็ม E-Receipt โบรกเคาะ ADVICE เด่น

WHA ย้ำศักยภาพนิคมฯ ไทย ลุยกรีนโลจิสติกส์-อุตสาหกรรมใหม่ปี 68

WHA ย้ำศักยภาพนิคมฯ ไทย ลุยกรีนโลจิสติกส์-อุตสาหกรรมใหม่ปี 68

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด
live-sticky
LIVE