หุ้นวิชั่น -บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” AAV ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท อิง 2025E core PER ที่ 15.5 เท่า คิดเป็น -1SD จากค่าเฉลี่ย PER ช่วงก่อนโควิดในปีที่มีกำไรปกติ จากการ update กับบริษัทยังคงมองเป็นบวก จาก 1) ผู้โดยสาร ต.ค.-พ.ย. จะอยู่ที่ 1.7/1.8 ล้านคน (3Q24 เฉลี่ยเดือนละ 1.6 ล้านคน) ขณะที่เราประเมินในเดือน ธ.ค. จะเพิ่มเป็น 2.0 ล้านคน ส่งผลให้ 4Q24E จะมีผู้โดยสาร 5.5 ล้านคน (+8% YoY, +12% QoQ) และทั้งปี 2024E จะมีผู้โดยสารที่ 20.8 ล้านคน +10% YoY, 2) load factor เดือน ต.ค.-พ.ย. จะยังทรงตัวดีที่ 90%+/- (4Q23 = 90%, 3Q24 = 90%), 3) ค่าตั๋วโดยสารเฉลี่ย 4Q24E จะดีขึ้นเป็น 2.0-2.1 พันบาท เพิ่มจาก 3Q24 ที่ 1.85 พันบาท และ 4) จะได้ผลบวกจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง ซึ่งคิดเป็น 30%-40% ของต้นทุนรวม
นอกจากนั้น ประเมิน 1Q25E AAV จะได้ประโยชน์จากโครงการ Easy E-Receipt 2025 ที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และคาดว่าสายการบินไทยแอร์เอเชีย (TAA) จะเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ หลังมีการจัดทำระบบ e-Receipt แล้ว โดยหากเป็นไปตามเงื่อนไขเดิม คาดว่าจะสามารถนำค่าตั๋วโดยสารมาลดหย่อนภาษีได้ เฉพาะเที่ยวบินในประเทศที่จองและเดินทางในช่วงระยะเวลาโครงการ โดยจะต้องซื้อตั๋วโดยสารโดยตรงกับ TAAเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2024E/25E ที่ 2.6/3.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่มีกำไรปกติ 167 ล้านบาท จากจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 20.8/22.2 ล้านคน (+10% YoY/+7% YoY)
สำหรับกำไรปกติ 4Q24E จะดีขึ้นเป็นระดับ 900-1,100 ล้านบาท (กำไรปกติ 4Q23 = 877 ล้านบาท, 3Q24 = 11 ล้านบาท) และจะยังคงดีขึ้นต่อเนื่องใน 1Q25E เนื่องจากเข้าสู่ช่วง high season, มีจำนวนเครื่องบินให้บริการเพิ่มขึ้น และค่าตั๋วโดยสารเฉลี่ยที่จะปรับตัวดีขึ้นราคาหุ้น outperform SET +6%/+28% ใน 3 เดือน และ 6 เดือน จากกำไร 9M24 ที่ดีขึ้น แต่ underperform SET -2% ในช่วง 1 เดือน ทั้งนี้ เรายังแนะนำ ซื้อ จากกำไรปกติ 4Q24E-1Q25E จะดีขึ้นมากต่อเนื่อง ทำให้เราประเมินว่าราคาหุ้นจะยัง outperform SET ได้ และยังมี catalyst จากโครงการ Easy E-Receipt ที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง 1Q25E