ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

20 หุ้นใหญ่ที่ต่างชาติทุบ

          หุ้นวิชั่น – จากข้อมูลสถิติตลาดหุ้นไทยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ถูกนักลงทุนต่างชาติขายกดหนักมาโดยตลอด  จนกระทั้งหลายบริษัทเริ่มเข้าโครงการซื้อหุ้นคืนกันเป็นทิวแถว  

          ล่าสุด HMPRO ก็ทนไม่ไหว ประกาศซื้อหุ้นคืนตาม PTT  ด้วยวงเงินจำนวน 7,000 ล้านบาท  ซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 800 ล้านหุ้น หรือ 6% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด  คิดเป็นราคาเฉลี่ย 8.75 บาทต่อหุ้น มีระยะเวลาซื้อคืนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2568 และราคาที่ซื้อคืนจะต้องไม่มากกว่า 115% ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้าการซื้อขาย

          ใน 3 ปีที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลงทุกปี รวมแล้วลบมา 484 จุด หรือ 29% นั้นคือ ปี 2023 -15% , 2024 -1.1%,2025YTD -15.4% เกิดจากต่างชาติ มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้น  โดยปัจจัยมีสัดส่วนการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยสูงถึง53.8% ซึ่งส่วนทางกับนักลงทุนรายย่อยที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นน้อยลงเรื่อยๆ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเพียง 29.1%

          ซึ่งการที่ SET ปรับตัวลงแรงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการถูกต่างชาติขายสุทธิอย่างหนักหน่วง โดยต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยหนักทุกปี รวม -3.77 แสนล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนไทยที่ค่อยๆ เข้ามาสะสมหุ้นถึง 2.65 แสนล้านบาท ทำให้นักลงทุนในประเทศเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง (ข้อมูล บล.เอเซีย พลัส )

          จากประเด็นดังกล่าวทำให้ SET ผันผวนในช่วงที่ผ่านมา และกดดันให้เม็ดเงินส่วนหนึ่งของนักลงทุนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ดูจากยอด FCD ของไทย พุ่ง ATH แตะ 2.63 หมื่นล้านเหรียญ (ในยามที่ดอกเบี้ยประเทศอื่นสูงกว่าไทย)

          และหากพิจารณาเป็นรายหุ้น จะเห็นได้ว่า มี 20 หุ้นขนาดใหญ่ ที่ถูกต่างชาติขายหนัก ตั้งแต่ปี 2023-ถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย 10 หุ้นแรก คือ  DELTA – CPALL- AWC- PTTEP – AOT-CPN-BTS-TISCO-TIDLOR และ TOP  ส่วนอีก 10 หุ้นหลังที่ต่างชาติขายหนัก PTT-SCC-BANPU-PTTGC-LH-HMPRO-SJWD-EA-BDMS และHANA  

          ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ บล.เอเซีย พลัส แนะ กลยุทธ์ให้นักลงทุน หลบความผันผวนกับหุ้นปันผล หลังSET มี DIVIDEND YIELD สูง เป็นอันดับต้นๆ ของโลก จากแรงขายของต่างชาติที่มีมาตลอด 3 ปี กว่า 3.8 แสนล้านบาท ทุบดัชนีหุ้นดิ่งมาเกือบ 500 จุด  จนมี VALUATION ที่ถูกมาก โดยมี PBV 1.13 เท่า มี DIVIDEND YIELD 4.3% ขณะที่ SETHD มี DIVIDEND YIELD สูงถึง 6.6 %

          แม้ว่าตลาดหุ้นไทยยังถูกปัจจัย TRADE WAR กดดัน ทำให้ขยับขึ้นยาก ดังนั้นเพื่อหลบความผันผวน  แนะนำทยอยสะสมหุ้น VALUATION ถูก ปันผลสูง SPALI,AP,SCC,PTTEP และหุ้น MEGA TREND ปันผลมีโอกาสค่อยๆสูงขึ้น CPALL,BH,ITCและWHA  

          มาที่ TOP ล่าสุด บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. 2 ใน 3 บริษัทร่วมทุนของ Unincorporated Joint Venture (UJV) ได้เริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการกับ TOP ต่อ Singapore International Arbitration Centre โดย Samsung และ Saipem ได้ฟ้องร้องถึงการใช้สิทธิของ TOP ในการบังคับหลักประกันของ UJV มูลค่า USD 358 ล้าน ตามที่ TOP ได้แจ้ง SET เมื่อวันที่ 24 ม.ค.68

          โดยทั้ง 2 บริษัทได้อ้างถึงการใช้สิทธิบังคับหลักประกันดังกล่าวของ TOP เป็นการใช้สิทธิก่อนถึงกำหนดเวลาและเป็นการดำเนินการที่ไม่สมควร อีกทั้งยังได้เรียกร้องค่าเสียหายกับ TOP สำหรับความเสียหายซึ่งยังมิได้มีการระบุรายละเอียด

          บล. ดาโอ มุมมองเป็นลบเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ Clean Fuel Project (CFP) อย่างไรก็ตาม TOP ได้ยืนยันถึงการปฏิบัติตามข้อบังคับกับ UJV อย่างเคร่งครัด  ทั้งนี้ ต้องรอดูผลการพิจารณาของศาลต่อคดีนี้ต่อไป ถึงจะประเมินได้ว่าจะส่งผลกระทบต่องบการเงินของ TOP หรือไม่ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี2568ที่ 36.00 บาท อิง PBV เป้าหมายที่ 0.47x  

การลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ

ข่าวหัวม่วง By ทีมงานหุ้นวิชั่น   

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กหุ้นคอนโดมิเนียม แผ่นดินไหวเขย่าแค่ไหน?

เช็กหุ้นคอนโดมิเนียม แผ่นดินไหวเขย่าแค่ไหน?

BEMเปิดใช้รถไฟฟ้าแล้ว  ทุกขบวนสมบูรณ์ปลอดภัย

BEMเปิดใช้รถไฟฟ้าแล้ว ทุกขบวนสมบูรณ์ปลอดภัย

BAFS ถังน้ำมันไม่รั่วไหล เติมเครื่องบินไม่กระทบ

BAFS ถังน้ำมันไม่รั่วไหล เติมเครื่องบินไม่กระทบ

GUNKUL ยันกังหันลมปกติ  ผลิต 170 เมกะวัตต์ ไม่สะดุด

GUNKUL ยันกังหันลมปกติ ผลิต 170 เมกะวัตต์ ไม่สะดุด

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด