หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.พาย ระบุ ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 132 จุด (-0.3%) นักลงทุนกังวลกับสงครามการค้าเพราะล่าสุด Trump ได้ประกาศขึ้นภาษีรถยนต์ในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1% ปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์ในสัปดาห์ก่อน
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯได้รายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนขยายตัว 0.9%MoM ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ -1.1%MoM แต่อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าเร่งซื้อสินค้าก่อนจะเผชิญกับการปรับขึ้นของภาษี จึงอาจมิได้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเริ่มเห็นนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นสะท้อนผ่านการแข็งค่าของ Dollar Index และราคาทองที่ยังทรงตัวในแดนบน
โดยล่าสุดช่วงเช้ามืดตามเวลาประเทศไทย Trump ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากทุกประเทศที่มิได้ผลิตในสหรัฐฯในอัตรา 25% จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วง 2 เม.ย. แต่หากเป็นรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯจะไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ในส่วนของรถยนต์นั้นไม่เพียงแต่จะใช้กับรถยนต์ที่ประกอบเสร็จ แต่จะรวมไปถึงชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ อาทิ เครื่องยนต์ เกียร์ ชิ้นส่วนระบบส่งกำลังและส่วนประกอบไฟฟ้าและในอนาคตอาจขยายออกไปเพื่อให้ครอบคลุมชิ้นส่วนเพิ่มเติม ปัจจุบันสหรัฐฯนำเข้ารถยนต์หลักๆจาก Mexico , Japan , South Korea , Canada , Germany
สำหรับประเทศไทยสินค้าหลักๆที่ส่งออกไปสหรัฐฯได้แก่อิเล็กทรอนิกส์ เครื่ืองจักร ยาง และชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนบริษัทจดทะเบียนที่อาจได้รับผลกระทบ ประกอบไปด้วย AH SAT และอาจรวมไปถึง KCE ที่ผลิตชิ้นอิเล็กทรอนิกส์ให้กับรถฝั่งยุโรป จากนี้รอติดตามในช่วงวันที่ 2 เม.ย. เพราะมีแนวโน้มว่าช่วงเวลาดังกล่าวสหรัฐฯจะประกาศเก็บภาษีกับกลุ่มที่เรียกว่า 15 Dirty แม้จะยังไม่ได้ระบุรายชื่อประเทศแต่ไทยจัดเป็นประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯก็อาจมีความเสี่ยงจากประเด็นนี้และจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อทั้งเศรษฐกิจไทยและโลก มองเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นรวมถึงกลุ่มส่งออก (ITC TU) ด้านปัจจัยในประเทศวันนี้รอติดตามประชุมคณะรัฐมนตรีที่เลื่อนมาจากวันอังคารเพราะพึ่งเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปได้โดยดีด้วยคะแนนไว้วางใจ 319 : 162
โดยประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1170 – 1185 แรงกดดันภาษีจะเป็นปัจจัยลบต่อการลงทุนในวันนี้และไทยถือเป็นประเทศที่เสี่ยงกับถูกขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นย้ำพิจารณาเลือกหุ้นที่ Defensive ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจ อาทิ โรงพยาบาล (BDMS) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC TIDLOR) ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.25 แสนรายและดุลการค้าของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดว่าจะขาดดุล 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ