หุ้นวิชั่น – บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า วานนี้ สำนักเลขาธิการโอเปก (OPEC Secretariat) ได้รับแผนชดเชยกำลังการผลิตน้ำมันอัพเดตจาก 7 ประเทศสมาชิก (กลุ่มประเทศ (กลุ่มประเทศสมาชิกที่ตกลงจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ยกเว้น แอลจีเรีย) โดยแผนใหม่นี้จะแสดงการปรับลดกำลังการผลิตรายเดือนระหว่าง 189-435 พันบาร์เรลต่อวัน (kbd) โดยการปรับลดกำลังการผลิตนี้ตามกำหนดจะคงอยู่จนถึงเดือน มิ.ย.2026 โดยประเทศที่ตกลงจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากสุดตามแผนนี้ในช่วงเดือน มี.ค.2025-มิ.ย.2026 (เรียงจากมากไปน้อย) คือ อิรัก 1,954 kbd, คาซัคสถาน (908 kbd), รัสเซีย (706 kbd), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (365 kbd), คูเวต (141 kbd), โอมาน (99 kbd), และซาอุดิอาระเบีย (30 kbd)
ทั้งนี้ สังเกตได้ว่าคาซัคสถานได้ผลิตที่ระดับสูงสุดใหม่ในช่วงที่ผ่านมาจากการขยายกำลังการผลิตของ Chevron โดยคาซัคสถานผลิตน้ำมันรวม 1.767 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) ในเดือน ก.พ.2025 สูงขึ้นจาก 1.570 mbd ในเดือน ม.ค.2025 และโควตาการผลิตของ OPEC+ ที่ 1.468 mbd
US ออกมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวกับอิหร่านเพิ่มเติม วานนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา (US) ประกาศคว่ำบาตร (sanction) ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันอิหร่านเพิ่มเติมโดยคราวนี้ตั้งเป้าไปที่ โรงกลั่นขนาดเล็กของจีน (teapot refineries) ซึ่งรวมถึง โรงกลั่น Shandong Shouguang Luqing Petrochemical Co., Ltd. นอกจากนี้ กระทรวงการคลังของ US ยังบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับ เรือขนส่งน้ำมัน 8 ลำ ซึ่งระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือเงา (shadow fleet) ของอิหร่านที่เป็นเรือบรรทุกน้ำมันที่จัดหาให้กับโรงกลั่นเอกชนของจีน (ที่มา: Reuters, Bloomberg)
บล.ดาโอ มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ โดยเรามองว่าการประกาศแผนลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยการผลิตส่วนเกินของ OPEC และการ sanction อุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่านเพิ่มเติม น่าจะส่งผลกระทบให้ตลาดน้ำมันโลกมีความตึงตัวมากขึ้นและอาจทำให้ภาวะอุปทานล้นตลาด (oversupply) ที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2025E ผ่อนคลายลงมาได้ ทั้งนี้ วานนี้ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% เป็น USD72.0/bbl โดยเรายังสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยปีนี้ที่ USD73.0/bbl
เรายังคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” สำหรับกลุ่มพลังงาน และคาดส่งผลบวกต่อหุ้นโรงกลั่นและหุ้นน้ำมันต้นน้ำ
โดยชอบหุ้น SPRC (ซื้อ/เป้า 6.50 บาท), PTTEP (ซื้อ/เป้า 160.00 บาท) และ TOP (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท) โดยเราคาดว่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่น่าจะปรับตัวสูงขึ้น