หุ้นวิชั่น – บล.เอเชียพลัส เจาะหุ้น PR9 ประเมินจากการรายงานกำไรสุทธิงวด Q3/67 อยู่ที่ 208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49%YOY โดยมี ปัจจัยหนุนจากโรคระบาดตามฤดูกาล และการเพิ่มขึ้นของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ อย่างมีนัยสำคัญจากการขยายฐานผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง รวมถึงอัตรากำไร ที่ปรับตัวดีขึ้นจากการให้บริการผู้ป่วยโรคยากซับซ้อน และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
ฝ่ายวิจัยมองแนวโน้มผลการดำเนินงานงวด Q4/67 คาดเติบโตต่อเนื่องหนุนจากไฮซีซั่น ที่มีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการตรวจสุขภาพ รวมถึงศูนย์ศัลยกรรมและเลสิคเพิ่มขึ้น ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมใหม่ปี 2568 ที่ 28.4 บาท อิงวิธี DCF ให้น้ำหนักการ ลงทุน OUTPERFORM
แนวโน้มผลประกอบการ Q4/67 โตต่อเนื่อง
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ PR9 ในงวด Q4/67 โดย คาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ YoY และ QoQ ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากปัจจัยเชิงฤดูกาลที่มักส่งผลให้มีผู้เข้ารับบริการตรวจสุขภาพจำนวนมาก โดยในอดีตเคยมี ผู้ใช้บริการสูงถึง 400-500 คน/วัน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการในศูนย์ศัลยกรรมความงามและศูนย์เลสิค ควบคู่กับการขยายตัวอย่าง ต่อเนื่องของกลุ่มผู้ป่วยโรคยากซับซ้อนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในด้านการพัฒนา ศักยภาพการให้บริการ PR9 มีแผนเปิดศูนย์การแพทย์แผนจีนภายในงวด Q4/67 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตและได้เตรียมความพร้อมด้าน บุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ขณะเดียวกัน PR9 ได้มีการประชาสัมพันธ์ศูนย์ผ่าตัดหัวใจที่มีจุดเด่นด้านทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสถาบัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี สะท้อนจากจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัดที่เพิ่มขึ้นในงวด Q3/67 ทั้งนี้การพัฒนาศักยภาพการให้บริการดังกล่าว คาดว่าจะช่วยยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยและเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ
ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 28.4 บาท
โดยมองจากภาพรวมกำไรสุทธิงวด 9M67 อยู่ที่ 506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%YoY คิดเป็น สัดส่วน 79% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไร ปี 2567 และ 2568 เพิ่มขึ้น 7% และ 10.4% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนอัตราการทำกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23%YoY และประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรในช่วงปี 2567-2571 เฉลี่ย อยู่ที่ 14% ต่อปี
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินว่า PR9 มีศักยภาพการเติบโตสูงจากการขยายฐานผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีค่ารักษาพยาบาลต่อหัวสูงประกอบกับการมีมาตรฐานการรักษาในระดับสากลและอัตราค่าบริการที่ สมเหตุสมผล คาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติให้เพิ่มขึ้นเป็น