เจาะหุ้นส่งออกไทย เช็กด่วน! ตัวไหนรับโชค

หุ้นวิชั่น – บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ ระบุว่า ส่งออกโดยรวม ต.ค. 2024 ขยายตัว MoM ยกเว้นอาหารสัตว์เลี้ยง กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขส่งออกสำคัญดังนี้
1) ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเดือน ต.ค. 2024 อยู่ที่ 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+18% YoY, -1% MoM) และตัวเลข 10M24 อยู่ที่ 2,520 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+25% YoY)
2) ส่งออกอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปเดือน ต.ค. 2024 อยู่ที่ 366 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+27% YoY, +5% MoM) และตัวเลข 10M24 อยู่ที่ 3,186 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+11% YoY)
3) ส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและไก่แปรรูปเดือน ต.ค. 2024 อยู่ที่ 407 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+12% YoY, +12% MoM) และตัวเลข 10M24 อยู่ที่ 3,593 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+5% YoY)
4) ส่งออกยางพาราเดือน ต.ค. 2024 อยู่ที่ 456 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+33% YoY, +5% MoM) และตัวเลข 10M24 อยู่ที่ 4,124 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (+38% YoY)
(ที่มา: กระทรวงพาณิชย์)

มีมุมมองเป็นบวกจากส่งออกส่วนใหญ่ขยายตัวดี MoM โดยส่งออกอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปคาดได้อานิสงส์จากราคาทูน่าที่อยู่ในระดับเหมาะสมและการเร่งทำการตลาดต่อเนื่อง ส่งออกไก่ยังได้ผลบวกต่อเนื่องจาก high season ในไตรมาส 3 ก่อนที่จะทยอยชะลอตัวในช่วงที่เหลือของปี และส่งออกยางได้ปัจจัยหนุนจากผลผลิตยางที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงชะลอเล็กน้อย -1% MoM เชื่อว่าเป็นผลจากลูกค้าบางส่วนที่ยังมีปัญหาจองพื้นที่เรือ

• สำหรับทิศทาง 4Q24E 1) กลุ่ม Pet Food เบื้องต้นประเมินกำไรปกติจะขยายตัวต่อเนื่อง YoY จากฐานต่ำใน 4Q23 ที่ยังมีผลกระทบจาก inventory destocking ของลูกค้า แต่มีโอกาสทรงตัว QoQ จากผลกระทบการจองพื้นที่เรือของลูกค้าในช่วงต้นไตรมาส, 2) TU เราคาดการณ์กำไรปกติจะโต YoY, QoQ หนุนโดยธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปยังดีต่อเนื่อง, 3) NER เบื้องต้นประเมินกำไรปกติจะอ่อนตัว YoY จากปริมาณขายลดลงจากฐานสูง แต่จะกลับมาดีขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลจากปริมาณยางที่ทยอยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น, และ 4) GFPT ประเมินกำไรปกติปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง YoY จากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง แต่จะกลับมาอ่อนตัว QoQ เป็นผลจากปัจจัยฤดูกาลหลังผ่านช่วง high season

• ทั้งนี้กลุ่ม Pet Food คงน้ำหนัก “Neutral” และ Top pick คือ ITC (ซื้อ/เป้า 30.00 บาท) จากแนวโน้มกำไรปกติปี 2025E ขยายตัวสูงกว่าที่ +6% YoY เทียบกับ AAI ที่ +2% ขณะที่ลูกค้าใหม่รายใหญ่ของ AAI ยังมีโอกาสล่าช้า

สำหรับหุ้นตัวอื่นๆ ในกลุ่มนี้ แนะนำ
– TU (ซื้อ/เป้า 18.50 บาท) มี catalyst จากโรงงานใหม่ทยอย ramp up และราคาทูน่าที่กลับมาอยู่ใน comfort level ของบริษัทมากขึ้น ทำให้ลดแรงกดดันในการปรับราคาขายลง
– NER (ถือ/เป้า 5.50 บาท) หลังราคายางทยอยกลับสู่ระดับปกติ โดยปรับตัวลง -16% QTD นอกจากนี้การขยายกำลังการผลิตของโรงงานใหม่ในโกตดิวัวร์และไทย จะเริ่มได้เร็วสุดในปี 2026E
– GFPT (ซื้อ/เป้า 16.00 บาท) จากราคาไก่ในประเทศมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวหลังผ่านช่วงฤดูฝน ขณะที่ valuation ปัจจุบันยังน่าสนใจ เทรดที่ 2025E PER เพียง 6x

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

WHA ย้ำศักยภาพนิคมฯ ไทย ลุยกรีนโลจิสติกส์-อุตสาหกรรมใหม่ปี 68

WHA ย้ำศักยภาพนิคมฯ ไทย ลุยกรีนโลจิสติกส์-อุตสาหกรรมใหม่ปี 68

SC ขายหุ้น SC L1 ให้โตเกียวทาเทโมโนะ ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

SC ขายหุ้น SC L1 ให้โตเกียวทาเทโมโนะ ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

ปตท. คว้าอันดับ 1 โลกความยั่งยืนจาก S&P Global พร้อมมุ่งมั่นเติบโตยั่งยืนระดับโลก

ปตท. คว้าอันดับ 1 โลกความยั่งยืนจาก S&P Global พร้อมมุ่งมั่นเติบโตยั่งยืนระดับโลก

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร TSF กับพวกรวม 6 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีทุจริต

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร TSF กับพวกรวม 6 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีทุจริต

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด