วิเคราะห์ 6 หุ้นพื้นฐานดี มีอัพไซด์รับลดดอกเบี้ย

 

          หุ้นวิชั่น- บล.ดาโอ ระบุ หุ้นที่ได้รับผลบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของไทย
          กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bps วานนี้ (16 ต.ค. 2024) มาอยู่ที่ 2.25% ต่อปี ด้วยมติ 5:2 ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ธปท. คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2024E และ 2025E จะอยู่ที่ 0.5% และ 1.2% ตามลำดับ และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ 2.7% และ 2.9% ในปี 2024E และ 2025E ตามลำดับ

          โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (ที่มา: ธปท.)

          บล. ดาโอมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย ที่บริษัทส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยงลดลง โดยเราประเมิน 6 หุ้นพื้นฐานดี ที่ราคาหุ้นยัง laggard

ได้แก่

  • TIDLOR (Bloomberg consensus 18.62 บาท) ได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยกู้ยืมลดลง ขณะที่ราคาหุ้นยัง laggard กลุ่ม
  • BGRIM (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท) ภาระดอกเบี้ยลดลงและแรงกดดันจากผลตอบแทนโครงการใหม่ในอนาคตลดลง
  • ERW (ถือ/เป้า 4.20 บาท) ภาระดอกเบี้ยลดลง, ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
  • SIRI (ถือ/เป้า 1.80 บาท) มี backlog และโครงการพร้อมขายสูง กำไรปี 2024E มี upside
  • IVL (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) ได้ประโยชน์จากภาระดอกเบี้ยที่ลดลง
  • TU (ซื้อ/เป้า 18.50 บาท) ได้ประโยชน์จากโอกาสที่เงินบาทอาจกลับมาอ่อนค่า

สำหรับ Sector/Stock ที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว ได้แก่

  • กลุ่มการเงิน: จากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยกู้ยืม โดยหุ้นที่ชอบคือ TIDLOR, MTC, SAWAD, JMT
  • กลุ่มที่อยู่อาศัย: จะทำให้ต้นทุนผู้ซื้อลดลงส่งผลบวกต่อกำลังซื้อที่ดีขึ้น, rejection rate มีโอกาสลดลง รวมถึงต้นทุนดอกเบี้ยของผู้ประกอบการลดลง โดยบริษัทที่จะได้ประโยชน์มากสุดจากมี Backlog, โครงการพร้อมขาย รวมถึงอาจมี D/E ratio ที่สูง ได้แก่ SIRI (ถือ/เป้า 1.80 บาท), ORI (ขาย/เป้า 4.20 บาท), SPALI (ถือ/เป้า 18.00 บาท)
  • กลุ่มโรงไฟฟ้า: จากภาระทางการเงินลดลงและแรงกดดันจากผลตอบแทนโครงการในอนาคตที่น้อยลง หุ้นที่ชอบคือ BGRIM (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท), GPSC (ซื้อ/เป้า 60.00 บาท)
  • กลุ่มที่มีหนี้สูง: จากภาระดอกเบี้ยที่ลดลง หุ้นที่ชอบคือ IVL (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท)
  • กลุ่มท่องเที่ยว: จากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดงลง ค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลง และจะช่วยจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้มากขึ้น โดย ERW (ถือ/เป้า 4.20 บาท) จะมี upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E สูงที่สุดในกลุ่มที่ +2.4% เพราะมีสัดส่วนเงินกู้ในไทยสูงที่สุดถึง 88% และเป็น Float rate ที่ 100%
  • กลุ่มเกษตรและอาหาร: จากประโยชน์จากโอกาสที่เงินบาทอาจกลับมาอ่อนค่า หุ้นที่ชอบคือ AAI (ซื้อ/เป้า 8.20 บาท), ITC (ซื้อ/เป้า 30.00 บาท), TU (ซื้อ/เป้า 18.50 บาท)
  • อื่นๆ: AURA (ซื้อ/เป้า 16.70 บาท) มีโอกาสขยายพอร์ตลูกหนี้ขายฝากด้วยต้นทุนเงิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

NER คว้า CSR-DIW Award 2024  ต่อเนื่อง 3ปี

NER คว้า CSR-DIW Award 2024 ต่อเนื่อง 3ปี

ขึ้นค่าจ้างน้อยกว่าคาด หุ้นตัวไหนโบรกปรับกำไร upside เช็กเลย!

ขึ้นค่าจ้างน้อยกว่าคาด หุ้นตัวไหนโบรกปรับกำไร upside เช็กเลย!

SISB มั่นใจรายได้ตามเป้า มุ่งขยายโรงเรียนสาขา 7

SISB มั่นใจรายได้ตามเป้า มุ่งขยายโรงเรียนสาขา 7

AAV กำไรปกติQ4โตโดด ขานรับธุรกิจ high season

AAV กำไรปกติQ4โตโดด ขานรับธุรกิจ high season

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด