ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

น้ำมันลดลิตรละ1บ. OR รับอานิสงส์แค่ไหน

                     หุ้นวิชั่น – บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า วานนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.: OFFO) มีมติปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (oil fuel fund) เพื่อให้ราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินและดีเซลลดลง Bt1.00/litre โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ครั้งละ Bt0.50/litre เริ่มครั้งแรกในวันที่ 28 มี.ค.2025 และอีกครั้งในวันที่ 4 เม.ย.2025 เพื่อบรรเทาค่าครองชีพรองรับการกลับภูมิลำเนา การท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ Oil fuel fund มีสถานะติดลบน้อยลงในปีนี้ จากระดับราคาน้ำมันทีทรงตัวต่ำ YTD ในปี 2025E ทำให้ oil fuel fund สามารถที่จะเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนได้มากขึ้นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันทำให้สถานะกองทุนโดยรวมติดลบน้อยลงอยู่ที่ 6.01 หมื่นล้านบาท ณ วันที่ 23 มี.ค.2025 ดีขึ้นจาก 7.75 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2024 (ที่มา: OFFO)

                     มีมุมมองเป็นบวกระยะสั้นต่อปริมาณขายน้ำมัน โดยเรามองว่าการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลน่าจะส่งผลบวกต่ออุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันในระยะสั้น สำหรับภาพรวมระยะกลางถึงยาว เราเชื่อว่าจะมีผลกระทบที่จำกัดเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่ากลุ่มค้าปลีกน้ำมันน่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าการตลาด (marketing margin) ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากแตะระดับต่ำในเดือน ม.ค.2025

เรายังคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด”

                     สำหรับกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกน้ำมันที่เราชอบคือ OR คาดว่ากลุ่มค้าปลีกน้ำมันจะมีปัจจัยกดดันจากความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ (regulatory risk) ที่ลดลง เนื่องจาก oil fuel fund มีสถานะที่ฟื้นตัวขึ้นทำให้แรงกดดันต่อ marketing margin น่าจะน้อยลง

• OR (ปรับขึ้นเป็น ซื้อ/เป้า 12.50 บาท): เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาที่ผ่านมา (-38% ในรอบ 6 เดือน) ได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงไปมากแล้ว ราคาปัจจุบันจะสะท้อน 2025E PER ที่ไม่แพงที่ 14.7x (ประมาณ -3.3SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลังของกลุ่มค้าปลีก) อีกทั้ง เราเชื่อว่าระดับราคาน้ำมันที่ต่ำในปัจจุบันน่าจะช่วยลดความกดดันจาก regulatory risk ที่เป็นไปได้อีกด้วย

• PTG (ถือ/เป้า 8.50 บาท): เรายังคงมุมมองเชิงระมัดระวังจากความไม่แน่นอนจากการแทรกแซงจากภาครัฐแม้ผ่อนคลายลง แต่การปรับ marketing margin อาจต้องรอดูใน 2H25E ว่าจะทำให้ภาพรวมทั้งปีกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่

• BCP (ถือ/เป้า 34.00 บาท): เราเชื่อว่าบริษัทน่าจะเห็นกำไรที่อ่อนตัว YoY ใน 1Q25E ตามแนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ที่อ่อนตัว อีกทั้ง ประเด็นการเพิ่มทุนของบริษัทอาจจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

OR ชู “วิชั่น” ยั่งยืนครบสูตร

OR ชู “วิชั่น” ยั่งยืนครบสูตร

JMT ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด 3,000 ลบ. ปีนี้ตั้งเป้าพอร์ตหนี้ 2,000 ลบ.

JMT ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด 3,000 ลบ. ปีนี้ตั้งเป้าพอร์ตหนี้ 2,000 ลบ.

THCOM คว้าโครงการใหญ่ NT  ควบคุมดาวเทียม ไทยคม 4 และ 6

THCOM คว้าโครงการใหญ่ NT ควบคุมดาวเทียม ไทยคม 4 และ 6

KTC ผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผล 1.32 บาท

KTC ผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผล 1.32 บาท

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด