หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง KCG ว่า แนวโน้มกำไรใน 1Q25 ยังเติบโตได้ที่ระดับ 10% YoY
- ยอดขาย 2 เดือนแรกของปี 2025 เติบโตในระดับ 10% YoY
ยอดขายเดือน ม.ค.-ก.พ. 2025 ชะลอตัวลง QoQ จากการผ่านพ้นช่วง High season แต่ยังสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 10% YoY หนุนจาก 1) ธุรกิจ B2C ที่สามารถโต 10% YoY จากการเร่งออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องเพื่อไปชดเชยสินค้าที่ถูกยกเลิกจำหน่ายไป จากการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ (Product Rationalization) ในปีก่อน 2) ธุรกิจ B2B โตระดับ 10% YoY เช่นกัน ตามการขยายตัวของธุรกิจร้านเบเกอรี่ และร้านอาหารตะวันตก ส่วนลูกค้ากลุ่มโรงแรมยังทรงตัว-เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังเติบโตได้ค่อนข้างจำกัด ขณะที่ราคาต้นทุนไขมันเนย ปัจจุบันเราเริ่มเห็นราคาปรับตัวลง QoQ เป็นไตรมาสแรก แต่ยังสูงกว่าในปีก่อน ซึ่งคาดจะชดเชยได้จาก U-rate ที่สูงขึ้น รวมถึง Product Mix ที่ดีขึ้น ทำให้ GPM คาดว่ายังทรงตัว YoY ได้ที่ 30.5% ทำให้เราคาดกำไรสุทธิใน 1Q25 ลดลง QoQ แต่เติบโตในระดับ 10% YoY
- บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2025 ที่ระดับ 8% YoY
บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2025 ที่ระดับไม่ต่ำกว่าปี 2024 ที่ 8% YoY หนุนจาก
แนวโน้มตลาดเนยและชีสที่ยังขยายตัวระดับ 5% และ 7% ต่อปี ตามการเติบโตของกระแสนิยมอาหารตะวันตก การออกสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 SKUs เพื่อชดเชยสินค้าที่ถูกยกเลิกจำหน่ายไปในปีก่อน การรับรู้กำลังการผลิตใหม่ในช่วง 4Q25 ที่จะทำให้บริษัทสามารถรองรับการผลิตในช่วง High season ได้ หลังจากที่ใน 4Q24 บริษัทได้ใช้เครื่องจักรเต็มประสิทธิภาพแล้ว การส่งออกที่กลับมาเติบโตจากการรับรู้ผลของการปรับทีมขายใหม่เต็มปี
ส่วน GPM บริษัทตั้งเป้าหมายที่ทรงตัว YoY แม้ราคาต้นทุนไขมันเนยจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ทางผู้บริหารมองว่าจะชดเชยได้จาก Product Mix ที่ดีขึ้น จากการรับรู้ผลของการยกเลิกจำหน่ายสินค้าที่ไม่ทำกำไรออกเต็มปี
- ปรับประมาณการกำไรปี 2025-2026 ขึ้น 8.2% และ 6.4% ตามลำดับ
จากยอดขายใน 2 เดือนแรก ที่ยังเติบโตได้ในระดับ 10% ทำให้เรามั่นใจว่าบริษัทจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ระดับ 8% YoY รวมถึงประมาณการ SG&A เดิมของเราที่ยังไม่รวมปัจจัยบวกจากการเปิดใช้งาน KCG Logistic Park ทั้ง 6 ตึกเต็มปี ที่คาดว่าจะสามารถประหยัดค่าเช่าคลังสินค้าได้ราว 20 ลบ./ปี ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2025-2026 ขึ้น 8.2% และ 6.4% เป็น 447 ลบ. (+10.4% YoY) และ 501 ลบ. (+12.0% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานรายได้ขึ้น และปรับ SG&A/Sales ลง
- คงราคาเหมาะสมที่ 12.20 บาท ราคาหุ้นถูก ปันผลดี แนะนำ “ซื้อ”
เราปรับไปใช้วิธี PER Multiple ในการประเมินมูลค่า เพื่อให้สอดคล้องกับการประเมินมูลค่าของหุ้นกลุ่มขนมขบเคี้ยวของเราทั้ง SNNP / NSL / CHAO ซึ่งแม้เราจะปรับประมาณการขึ้น แต่เรายังคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 12.20 บาท หรือคิดเป็น PE ในการประเมินมูลค่าที่ 14.9 เท่า เพื่อเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น จากสภาวะตลาดที่ผันผวน โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER25 เพียง 10.1 เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม คิดเป็น -1 SD ของ PE Band ย้อนหลังนับตั้งแต่ IPO รวมถึงยังมี Div. Yield ที่ระดับ 4.9% (ขึ้น XD วันที่ 6 พ.ค. 2025) ช่วยจำกัด Downside risk ของราคาหุ้นในระยะสั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”