หุ้นวิชั่น – บล.กรุงศรี จับกระแสจากงานสัมมนา AI Revolution “A New Paradigm of New World Economy ข้อมูลหลักที่น่าสนใจ คือ Use Case ของการใช้ AI ในธุรกิจต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบ่งชี้ภาพโอกาสโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนในไทย ที่มีแนวโน้มเป็นผู้นำ AI ไปต่อยอดประสิทธิภาพธุรกิจและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ แม้ในงานจะมีข้อเสนอแนะให้คนไทยปรับมุมมองความเชื่อมั่น โดยยกตัวอย่างกรณี Deepseek ของจีนที่ขึ้นมาสร้างปรากฏการณ์แทรกฝั่งสหรัฐฯ ได้ ทั้งนี้ ตัวอย่าง Use Case ที่น่าสนใจของบริษัทต่างๆ ในงาน อาทิ:
WHA: การใช้ AI ในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เช่น การใช้ AI ช่วยคัดกรองพื้นที่หลังคาโรงงาน/พื้นที่ที่ต้องซ่อมแซม
KBANK (KBTG) และ BBIK: คาดว่าการใช้ AI ในกลุ่มธุรกิจการเงินยังพัฒนาไปได้อีกหลายมิติที่คาดไม่ถึง เช่น การต่อยอดบริการต่างๆ ที่จะเกิดนวัตกรรมเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้ AI ด้านความปลอดภัย เช่น บัญชีม้า การฉ้อโกง
ADVANC: การใช้ AI พัฒนาประสิทธิภาพโครงข่าย เช่น การบริหารพลังงานและการซ่อมบำรุงก่อนที่จะเกิดความเสียหายรุนแรง
CPALL: การใช้ AI บริหารจัดการสินค้าในร้านให้มีประสิทธิภาพ
AOT: การใช้ AI ลดขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นในสนามบิน เพื่อเพิ่มเวลาในการจับจ่ายของผู้ใช้บริการในพื้นที่พาณิชย์
โดยรวมประเมินว่า AI Adoption กำลังเป็นกระแสที่มีศักยภาพจะเกิดขึ้นเร็วกว่าตลาดคาดไว้ ทั้งนี้ในทุก Use Case ของ AI พื้นฐานหลักที่วิทยากรแต่ละท่านเน้นคือ:
i.) ความพร้อมข้อมูลที่เป็นระบบ เปรียบเสมือนวัตถุดิบของ AI
ii.) การสร้างวัฒนธรรมการใช้ AI ขององค์กร โดยที่ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่าย IT อย่างเดียว แต่ต้องผสานกับทีมกลยุทธ์ในการศึกษาความพร้อมของ AI Adoption ในแต่ละอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะ Data
ฝ่ายวิจัยประเมินว่าอุตสาหกรรมที่น่าจับตาโอกาส AI ต่อยอดธุรกิจได้เร็วและเป็น S Curve การเติบโตใหม่ คือ สถาบันการเงิน (KBANK, SCB) ค้าปลีก (CPALL, CPAXT) การแพทย์ ภาคผลิต (PTT, SCC)
ขณะที่การใช้ AI น่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ในส่วน Data Center โรงไฟฟ้า เช่น GULF, GPSC สื่อสาร เช่น ADVANC, TRUE และรับเหมาสร้าง เช่น STECON, INSET