ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

กลุ่มปิโตรเคมี-แนฟทา SPRC รับอานิสงส์ยังไง?

            หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ข้อมูลของ International Energy Agency data (IEA) แสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกแนฟทาของรัสเซียยังทรงตัวที่ 530-600k บาร์เรล/วันในปี 67 เนื่องจากโรงกลั่นของรัสเซียสามารถเปลี่ยนเส้นทาง cargo จาก EU ไปเอเชีย หลังถูกคว่ำบาตรในปี 66 ซึ่งผู้ซื้อหลักได้แก่จีน, อินเดีย, สิงคโปร์และไต้หวัน

            อีกทั้งฝ่ายวิเคราะห์ฯมองว่า ปริมาณการส่งออกแนฟทาที่ผันผวนรายเดือนในปีที่แล้ว เกิดจากการที่โรงกลั่นต้องหยุดการผลิตหลังถูกยูเครนโจมตีด้วยโดรนมากกว่าจะเกิดจากปัญหาด้านอุปสงค์ ขณะที่ไม่แน่ใจว่าแนฟทาจากรัสเซียจะเปลี่ยนเส้นทางกลับมายังยุโรปทั้งหมด หากรัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงหยุดยิง เนื่องจากความต้องการแนฟทาในยุโรปเริ่มเข้าสู่ขาลงมาตั้งแต่ปี 66 จากการปิดตัวลงของ Naphtha cracker

            นอกจากนี้ ข้อมูลของ IEA ระบุว่า แนฟทาจากรัสเซียมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดในเอเชียประมาณ 14-15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 4/67 แสดงว่า Naphtha cracker ในเอเชียที่ใช้วัตถุดิบแนฟทาจากรัสเซียจะมีความได้เปรียบด้านต้นทุน อย่างไรก็ตาม อัตราการผลิตของ Naphtha cracker ในเอเชียยังอยู่ในระดับต่ำที่ 80% ในปี 66-67 เพราะต้นทุนแนฟทาที่ถูกลงยังไม่พอชดเชยราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนตัว

            ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า สเปรด PE (polyethylene-)-แนฟทาและ PP (polypropylene)-แนฟทาในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้นจาก 150-170 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนม.ค.-ก.พ. 68 เป็น 179 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนมี.ค. 68 เพราะมีการหยุดผลิตนอกแผนหลายครั้งในเกาหลีใต้และอาเซียน แต่ผลดีส่วนหนึ่งจากการฟื้นตัวของสเปรด PP/PP จะหักลบกับราคาที่ลดลงของผลิตภัณฑ์พลอยได้อย่างเบนซีนและบิวทาไดอีน ซึ่งมีราคาลดลงจาก 896 เหรียญสหรัฐ/ตันและ 1,360 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนม.ค.68 เป็น 869 เหรียญสหรัฐ/ตันและ 1,330 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนก.พ.-มี.ค.68 ตามลำดับ

            ดังนั้น สเปรด PE/PP โดยรวมในอาเซียนจึงยังต่ำกว่าต้นทุนเงินสดที่ 167 เหรียญสหรัฐ/ตัน QTD ในไตรมาส 1/68 แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 150 เหรียญ สหรัฐ/ตันในไตรมาส 4/67 ขณะเดียวกัน Naphtha cracker ส่วนใหญ่ในเอเชียยังมีอัตราการผลิตต่ำกว่ากำลังการผลิต รวมถึง cracker 6 แห่งในเกาหลีใต้ (5.2mtpa) และ cracker 1 แห่งของ PTTGC (ต้องส่งอีเทนไป ให้กับ Ole 3 cracker) ขณะที่โครงการ Long Son Petrochemical ของ SCC ยังออฟไลน์ แม้ว่าวัตถุดิบ LPG (ก๊าซปิโตรเลียมเหลว) จะมีราคาถูกกว่าแนฟทา

            นอกจากนี้ คาดว่า PE/PP-แนฟทาในอาเซียน อาจเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มเติมในไตรมาส 2/68 จากการเปิดดำ เนินงานโรงงาน PE/PP ใหม่ในจีน และเนื่องจากมีคอนเทนเนอร์เปล่าเพิ่มขึ้นที่ท่าเรือของสหรัฐฯ จึงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะส่งออก PE ไปจีนเพิ่มขึ้นก่อนที่หน่วยงานรัฐของจีนจะตัดสินใจตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ

            ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่า EBITDA จากธุรกิจเคมีภัณฑ์ของ PTTGC และ IRPC อาจไม่เพิ่มขึ้น qoq ในไตรมาส 1/68 นี้ ขณะที่ Naphtha cracker สองแห่งในไทยของ SCC น่าจะยังมีขาดทุนสุทธิ แต่การที่บริษัทกลับมาเปิดหน่วยผลิต VCM (vinyl chloride monomer เป็นสารตั้งต้นในการผลิต PVC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรให้กับ SCC) อาจทำให้ธุรกิจเคมีภัณฑ์ของ SCC มี EBITDA เติบโต qoq ในไตรมาส 1/68

            ยังคงคำแนะนำ Underweight กลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากอุตสาหกรรมโอเลฟินส์ในเอเชีย น่าจะยังมีอุปทานเกินความต้องการในปี 68-69 และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน (ถ้ามี) น่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาอุปทานล้นตลาด ดังนั้นจึงมองว่าโรงกลั่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในกลุ่มพลังงานของไทย

            โดยมี SPRC เป็นหุ้น Top pick ขณะที่ปัจจัยลบที่กดดันกลุ่มคือ อุปสงค์ที่อ่อนตัวของเคมีภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้าโลกที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ส่วน upside risk จะมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แผ่นดินไหว..เขย่าหุ้นไทยแค่ไหน?

แผ่นดินไหว..เขย่าหุ้นไทยแค่ไหน?

ปตท. เผยแผ่นดินไหวในเมียนมา ไม่กระทบการรับส่งก๊าซธรรมชาติ

ปตท. เผยแผ่นดินไหวในเมียนมา ไม่กระทบการรับส่งก๊าซธรรมชาติ

คัด 6  หุ้นกระแส AI มาแรง  รับอานิสงส์ Data Center

คัด 6  หุ้นกระแส AI มาแรง รับอานิสงส์ Data Center

ทรีนีตี้กางกลยุทธ์ Q2 เปิดโผ 10 หุ้นเด่น เช็ก!

ทรีนีตี้กางกลยุทธ์ Q2 เปิดโผ 10 หุ้นเด่น เช็ก!

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด