หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง WARRIX
Event
► ประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 10 มี.ค. คงมุมมองเชิงบวก
Our Takes
► บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2026 ที่ 2,700 ล้านบาท (ประมาณการของเราคาดไว้ที่ 2,257 ล้านบาท) โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2025 ที่ 2,000 ล้านบาท (+29% YoY) สูงกว่าประมาณการของเรา 6% โดยมี GPM ที่ไม่น้อยกว่า 50% เทียบกับประมาณการของเราที่ 49.2% และปี 2024 อยู่ที่ 49.0%
► ตลอดช่วง 3Q-4Q24 มีการเปลี่ยนตัวแทนบริหารคลังสินค้าที่หมดสัญญาไปเป็นรายใหม่ แต่ตัวแทนใหม่ไม่สามารถส่งสินค้าได้ทัน ทำให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อ ส่งผลให้รายได้ของบริษัทถูกกระทบจากประเด็นนี้เกือบ 200 ล้านบาท บริษัทจึงปรับแผนโดยเช่าคลังสินค้าและใช้รถขนส่งรวมถึงบุคลากรของบริษัทในการบริหารจัดการเอง โดยลงทุนราว 10 ล้านบาท ปัจจุบันเริ่มใช้ระบบกระจายสินค้าของบริษัทเองประมาณ 50% และจะครบ 100% ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ เพื่อรองรับการเติบโตของช่องทางออนไลน์
► บริษัทตั้งเป้ารายได้จากช่องทางออนไลน์ที่ 25% หรือราว 500 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความเป็น Seasonal น้อยกว่าสินค้าหน้าร้าน และมี GPM สูงกว่ากลุ่ม Traditional Trade ที่ต้องให้ส่วนลดค่อนข้างมาก ซึ่งจะช่วยให้ GPM สูงขึ้น
► การตั้ง JV ร่วมกับ KSL ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่ม Traditional Trade รายใหญ่ที่สุด 1 ใน 2 อันดับแรก โดยมียอดขายหลักจากการขายออนไลน์ และขายสินค้าของ WARRIX คิดเป็น 85% ของยอดขายทั้งหมด การ JV จะช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่ นอกจากนี้ ธุรกิจทั้งหมดของ KSL จะมาอยู่ภายใต้ JV โดย KSL ถือหุ้น 49% ทำให้ WARRIX สามารถรวมงบการเงินของ JV ได้
► บริษัทตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2025 ของ JV ที่ 250 ล้านบาท และกำไรสุทธิราว 20 – 30 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของ WARRIX ประมาณ 51% (ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการของเรา) และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ 2Q25 เป็นต้นไป
► นอกจาก KSL จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ ยังเป็นลูกหนี้การค้ารายใหญ่เช่นกัน ซึ่งมีระยะเวลาเก็บหนี้นาน เนื่องจากจำนวนธุรกรรมค่อนข้างมาก และ KSL ยังไม่มีระบบที่ดีพอ ทำให้การเช็คยอดและการจ่ายหนี้ใช้เวลานาน ดังนั้น การตั้ง JV จะช่วยลดความเสี่ยงในการเก็บหนี้ เพราะกลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท โดย WARRIX จะมีกรรมการควบคุมการดำเนินงาน และการรวมงบการเงินจะไม่มีลูกหนี้การค้าส่วนนี้ ทำให้ระยะเวลาการเก็บหนี้ของ WARRIX ในงบการเงินรวมสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ
► ยอดขายสินค้า WARRIX ใน Outlet ของ Himaxx ในจีนค่อนข้างดี และมีแนวโน้มดีกว่าเป้าของ Himaxx โดยปัจจุบัน Himaxx มี Outlet จำนวน 24 แห่งในเซี่ยงไฮ้ และขายสินค้าของ WARRIX อยู่ใน 22 แห่ง นอกจากนี้ Himaxx มีแผนขยายสาขาเป็น 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 42 แห่ง
► ยอดขายสินค้าของ WARRIX ช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2024 อยู่ที่ 13 ล้านหยวน (ราว 60 ล้านบาท) ขณะที่ 2 เดือนแรกของปี 2025 มียอดขายไปแล้ว 106 ล้านบาท เทียบกับเป้าทั้งปีที่ 250 ล้านบาท ถือว่าทำได้ดีกว่าแผน โดย WARRIX จะเริ่มได้รับ Royalty Fee ในปี 2026 เป็นปีแรก
► สำหรับปี 2026 บริษัทมีแผนปรับกลยุทธ์ โดยจะไม่ส่งสินค้าจากไทยไปขายในจีนอีก เนื่องจาก Positioning สินค้าในจีนถูกวางในระดับ Premium หากนำเข้าสินค้าจากไทยไปขายในราคาที่แตกต่างกันมาก อาจทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย บริษัทจึงมีแผนใช้ Sourcing จากผู้ผลิตเดียวกับ Himaxx เพื่อลดต้นทุน โดยจะเริ่มจากสินค้ากลุ่มเสื้อโปโลในช่วงกลางปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนได้ราว 10%
► รายได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2025 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% YoY ขณะที่ 1Q24 เคยมีขาดทุนจากบริษัทในสิงคโปร์ แต่ใน 1Q25 ไม่มีผลกระทบดังกล่าว คาดว่ากำไร 1Q25 ควรเติบโตไม่น้อยกว่ารายได้ โดยประมาณการไว้ที่ราว 25 ล้านบาท +/–
► ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2025 ต่ำเพียง 11.0 เท่า และหากพิจารณาประเด็นทั้งหมดข้างต้น จะเห็นได้ว่าประมาณการกำไรของเรามีโอกาสปรับขึ้นมากกว่าปรับลง
คงคำแนะนำ: “ซื้อ”