หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน WARRIX ปี 67 กำไร 148.89 ล้านบาท เทียบกับปี 66 ที่ 127.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.50 ล้านบาท หรือโต 16.88% ส่วนรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1,553.48 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26.86% ชี้ออนไลน์ ร้านค้าโตสนั่น
นายวิศัลย์ ศรีสกล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX แจ้งผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) มีรายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 4/2567 จำนวน 447.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.67% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 ทั้งนี้ บริษัทสามารถขายสินค้าได้มากกว่ารายได้ที่ปรากฏในงบการเงิน เนื่องจากบริษัทสามารถขายสินค้าได้ แต่ผู้ให้บริการคลังสินค้ารายใหม่ไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ทันตามกำหนด จึงส่งผลกระทบต่อรายได้บางส่วน บริษัทจึงอยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการบริหารคลังสินค้าเอง ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์บริหารคลังสินค้ายาวนานกว่า 20 ปี ในคลังสินค้ามใหม่บนพื้นที่กว้างขึ้น ซึ่งจะสามารถรองรับการเติบโตระยะยาว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมียอดขายเติบโตในเกือบทุกช่องทางการขาย โดยช่องทางร้านค้าทั่วไปมีกาการเติบโตสูงสุด เนื่องจากร้านค้าสั่งซื้อสินค้าเพื่อรองรับการขายในปีถัดไปมากขึ้น ประกอบกับการฟื้นตัวของยอดขายช่องทางออนไลน์ในแง่ของสินค้า มีสาเหตุหลักจากการเติบโตของยอดขายกลุ่มสินค้า Non-Licensed โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้าคลาสสิค สินค้าคอลเลคชั่น และสินค้าทำตามคำสั่ง (Made to Order)
บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาส 4/2567 คิดเป็น 49.74% เพิ่มขึ้น 1.46% เมื่อเทียบกับช่วงเวลเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการเติบโตของยอดขาย และสามารถควบคุมสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4/2567 จำนวน 57.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.06% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566
สำหรับปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 1,553.48 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26.86% เมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจากมีการเติบโตของรายได้เกือบทุกช่องทางการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางร้านค้าทั่วไป ช่องทางออนไลน์ และร้านค้าของบริษัท อีกทั้ง บริษัทสามารถสร้างการเติบโตในช่องทางการขายต่างประเทศได้ดีขึ้นมาก ทั้งในประเทศสิงคโปร์ และผ่านตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ในประเทศมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/2567 บริษัทมีกระบวนการย้ายคลังสินค้าในประเทศไทย และพบว่าผู้ให้บริการรายใหม่ไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ทันตามกำหนด จึงส่งผลกระทบต่อยอดขายบางส่วน และในแง่ของสินค้า มีการเติบโตของทุกกลุ่มสินค้าเป็นผลจากการสร้างแบรนด์และขยายช่องทางการขายให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าคลาสสิคมีรายได้เติบโตมากที่สุด
บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับปี 2567 คิดเป็น 48.97% เพิ่มขึ้น 1.17% เมื่อเทียบกับช่วงเวลเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการขายที่ผันแปรสอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่เริ่มควบคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อยอดขายได้ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 จำนวน 148.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.88% เมื่อเทียบกับปี 2566