หุ้นวิชั่น – “วิรัฐ สุขชัย” นายกสมาคม maiA แนะนักลงทุนศึกษาธุรกิจก่อนลงทุน ย้อนรอยดูผลงาน 3-5 ปี ยันผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน mai 9 เดือนแรกปี 67 สดใส ชงผู้ประกอบการเร่งปรับตัวรับการแข่งขันต่างชาติ พร้อมเดินหน้ากิจกรรม mai Forum เชื่อมโยงนักลงทุน
นายวิรัฐ สุขชัย นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า แม้ที่ผ่านมา ตลาดทุนจะเผชิญกับปัญหาการชะลอตัวของการระดมทุน การ Forced Sell และผลประกอบการที่ไม่สดใสในบางบริษัท แต่ในภาพรวมของ 9 เดือนแรกปี 2567 ธุรกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเพียงส่วนน้อยที่ผลประกอบการยังไม่ฟื้นตัว
นายวิรัฐ แนะนำว่า นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัท โดยดูผลประกอบการย้อนหลัง 3-5 ปี เพื่อประเมินศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันการเติบโตทางธุรกิจเผชิญความท้าทายอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงของภาพรวมเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้น ไม่เพียงแต่ในประเทศ แต่ยังรวมถึงการแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทย
ธุรกิจบางกลุ่มยังสามารถแข่งขันได้ หากมีการปรับตัวและพัฒนาอย่างเหมาะสม เนื่องจากหลายธุรกิจถูก Disrupt ส่งผลให้การเติบโตเป็นไปได้ยากในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ดังนั้น ผู้ประกอบการและบริษัทจดทะเบียนจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ สร้างธุรกิจใหม่ หรือขยายไลน์ธุรกิจเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับผู้เล่นต่างชาติ เช่น บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หลายแห่งเดินหน้าปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบางบริษัทเลือกขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ ขณะที่บางรายมุ่งขยายไลน์ธุรกิจใหม่ๆ หรือเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน แนวทางดังกล่าวสะท้อนถึงความพยายามของบริษัทจดทะเบียนในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ธุรกิจในประเทศจำเป็นต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงและการเข้ามาของผู้ประกอบการต่างชาติ โดยประเด็นสำคัญในการดำเนินธุรกิจคือเรื่อง สภาพคล่อง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ หากธุรกิจมีสภาพคล่องที่ดี การขยายธุรกิจใหม่หรือการปรับตัวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงจะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น
นายกสมาคมบ maiA กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากที่ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุน และทำให้การระดมทุนชะลอตัว ทั้งนี้ การลงทุนในประเทศที่ลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุนที่เลือกหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และหันไปลงทุนในตลาดต่างประเทศแทน อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และกระตุ้นการลงทุนในตลาดทุนไทยได้มากขึ้น
ในปี 2568 สมาคมจะยังคงมุ่งเน้นการสร้างกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai กับนักลงทุน โดยมีแผนจัดงาน mai Forum ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนได้พบปะนักลงทุนโดยตรง
นอกจากนี้ สมาคมยังเตรียมจัดสัมมนาเพื่อเพิ่มองค์ความรู้ให้แก่บริษัทจดทะเบียน รวมถึงกิจกรรม Visit Company ที่เปิดโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจในตลาด mai อย่างต่อเนื่อง
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision