ธนพิริยะ (TNP) โชว์ศักยภาพการเติบโต เปิดผลงานไตรมาส 3 ปี 67 กวาดรายได้ 730 ล้านบาท โต 12% ด้านกำไรกว่า 47 ล้านบาท พุ่งแรงเกือบ 41% จากรายได้ของสาขาที่เติบโตขึ้น ด้านภัยน้ำท่วมไม่ส่งผลกระทบ ประกอบกับได้รับอานิสงส์สินค้าอุปโภค บริโภค มีความต้องการสูง มองแนวโน้มไตรมาส 4 สดใส เข้าสู่ไฮซีซั่นท่องเที่ยวของภาคเหนือ พร้อมลุยเป้ารายได้โต
10-15% ตามแผนที่วางไว้
เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เผยความสำเร็จ TNP เดินหน้าขยายอาณาจักรโซนภาคเหนือตอนบน ตอกย้ำเป็นค้าปลีกท้องถิ่นไทยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สู่ 49 สาขา โดยสาขาล่าสุดคือ สาขาสันติสุข โดยเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน TNP มีสาขาในจังหวัดเชียงราย 38 สาขา จังหวัดเชียงใหม่ 5 สาขา และจังหวัดพะเยา 6 สาขา
ในไตรมาส 3 ปี 2567 TNP มีรายได้จากการขายจำนวน 729.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.95 ล้านบาท คิดเป็น 12.14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจากยอดขายสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น 1.8% และมีรายได้อื่นจำนวน 5.46 ล้านบาท
แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3 ภาคเหนือจะเจอกับสถานการณ์ภัยน้ำท่วมอย่างหนัก ซึ่งจังหวัดเชียงราย ก็เป็นหนึ่งในจังหวัดที่เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง โดย ธนพิริยะ ได้รับผลกระทบ 4 สาขา แต่จำนวนมูลค่าความเสียหายทั้งหมดไม่เป็นสาระสำคัญเนื่องจากบริษัทฯ ได้ทำประกันภัยคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกิดจากเหตุน้ำท่วมไว้แล้ว และปัจจุบันได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย และกลับมาเดินหน้าเปิดสาขาได้ตามปกติเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 126.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.37 ล้านบาท หรือ 19.24% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 17.31% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นดังกล่าวเกิดจากภาพรวมการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น ประกอบกับภาพรวมของรายได้ที่เติบโต สนับสนุนให้มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 47.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.80 ล้านบาท หรือ 40.96% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 6.46%
ด้านผลประกอบการ 9 เดือน TNP มีรายได้จากการขายจำนวน 2,139.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222.98 ล้านบาท หรือ 11.64% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจากยอดขายของสาขาเดิมที่เติบโต ทำให้มีกำไรขั้นต้น 371.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.67% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 17.34% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 134.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.85 ล้านบาท หรือ 24.91% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 6.26%
เภสัชกรหญิงอมร กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “ในปี 2567 เรายังคงตั้งเป้าเติบโตอยู่ที่ 10-15% แม้จะได้รับผลกระทบจากการหยุดบางสาขาในช่วงของภัยน้ำท่วม แต่สาขาที่เปิดทำการได้ ก็รับอานิสงส์สร้างการเติบโตของยอดขายได้ดี อีกทั้งกลยุทธ์การเปิดสาขาใหม่ก็ยังเป็นทิศทางที่ดี ยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ได้ ประกอบกับเข้าสู่หน้าไฮซีซั่นของภาคเหนือแล้ว คาดว่านักท่องเที่ยวจะมาพักผ่อน ท่องเที่ยวรับอากาศหนาวคึกคักกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน”