หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน TNP เล็งสยายปีกสาขาใหม่ 5 แห่ง อัพยอด จากปัจจุบันที่ 49 แห่ง แม่ทัพหญิง “อมร พุฒิพิริยะ” เร่งเครื่องดันผลงานปี 68 โตไม่ต่ำกว่า 10% ฟากโบรกชี้แรงหนุนไฮซีซั่น กลุ่มค้าปลีกของขวัญพายอดพุ่ง แถมนักท่องเที่ยวไหลเข้าเพียบ เคาะพื้นฐาน 5.45 บาท
ภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยในงาน Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบปะผู้ลงทุนและนักวิเคราะห์เพื่ออธิบายเกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 รวมถึงแนวโน้มกิจการในอนาคต ว่า แผนการขยายุรกิจปี 2568 บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา และรีโนเวทสาขาเก่าให้มีความโมเดิร์น และทันสมัยตอบโจทย์การจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้า ขณะที่แนวโน้มยอดขายในปี 2568 คาดจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยการเติบโตจะมาจากการขายสาขา และยอดขายสาขาเดิม SSSG (Same-Store Sales Growth)
ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการครอบคลุม 3 จังหวัด ประกอบไปด้วย จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา จำนวนสาขาที่ 49 สาขา พื้นที่ให้บริการ 17,400 ตารางเมตร โดยรูปแบบให้บริการจำหน่ายสินค้ามีทั้งค้าผลีก และค้าส่ง รวมถึงการเป็นศูนย์กระจายสินค้าให้กับซัพพลายเออร์ 2 ราย
นอกจากนี้ยังได้จำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยดำเนินธุรกิจมาแล้ว 2-3 ปี สำหรับสาขาทั้งหมด 49 สาขา แบ่งเป็น ค้าปลีก จำนวน 48 สาขา และขายส่ง 1 สาขา และกระจายอยู่ในจังหวัดเชียงราย 29 สาขา เชียงใหม่ 4 สาขา และพะเยา 6 สาขา
สำหรับสินค้าของ TNP แบ่งออกเป็น 5 หมวด ได้แก่ สินค้ากลุ่มอุปโภค บริโภค กลุ่มสินค้าใช้ในบ้าน กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าเด็ก และกลุ่มเครื่องสำอาง และมีซัพพลายเออร์อยู่ 400 ราย สินค้าวางจำหน่ายในสาขามากกว่า 15,000 SKU โดยยอดขายจากทุกหมดวสินค้ามีแนวโน้มการเติบโตทีดี ส่วนสินค้าประเภทกิ๊ปช็อปมีแนวโน้มยอดขายที่ดีเช่นเดียวกัน และมีผลกำไรน่าพอใจ บริษัทอยู่ระหว่างการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทจะทำการตลาด และคัดเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภค เพื่อเพิ่มยอดขาย รวมถึงผลักดันยอดขาย SSSG ให้เติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งยังกลยุทธ์ดังกล่าวยังเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจของ TNP
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด มองแนวโน้ม TNP 4Q67 จะเติบโตอย่างโดดเด่นหนุน 4 ปัจจัยบวก คือ 1.High Season ช่วงกลุ่มค้าปลีกซึ่งจะได้รับแรงหนุนจากการจับจ่ายใช้สอยในสินค้ากลุ่มของฝากและของขวัญ ,2.การผ่านพ้นของอุทกภัยใหญ่ในพื้นที่ทางภาคเหนือและเงินช่วยเหลือจากทางภาครัฐจะหนุนยอดขายสินค้าในกลุ่มทำความสะอาดให้เพิ่มสูงขึ้น ,3.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดจะเดินทางท่องเที่ยวในโซนภาคเหนือเพิ่มขึ้น และ 4.การบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพจะหนุนอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้
คงคาดกำไรสุทธิ ปี 67 ที่ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% YoY ผลจากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องจาก ปี 66 ส่งผลให้คาด รายได้จากการขาย เพิ่มขึ้น 7.0% YoY และคาดกำไรสุทธิ ปี 68 ที่ 186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% YoY บนสมมุติฐาน การเติบโตของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้น 3.0% YoY ตามการเปิดสาขาใหม่ พร้อมประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 68 ที่ 5.45 บาท (บนสมมุติฐาน ค่าเฉลี่ย PE ในอดีตที่ 23.40 เท่า)