หุ้นวิชั่น – สมาคมค้าปลีกไทยเรียกร้องรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลุ้น ช้อปดีมีคืน” และ “Easy E-Receipt” หวนคืนบัลลังก์ จับตาหุ้นจิ๋ว SPVI เข้าชิงสินค้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ลุ้น CRC , COM7 , TNP รับอานิสงส์
ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น โครงการ “ช้อปดีมีคืน” และ “Easy E-Receipt” จำเป็นต้องติดตามว่ามาตรการเหล่านี้จะสามารถดำเนินการได้สำเร็จและจะมีผลกระทบในช่วงเวลาใด อาจจะเป็นช่วงปลายปี 2567 หรือช่วงต้นปี 2568
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท เฟส 2 ให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับกลุ่มคนที่มีรายได้หรือมีเงินนั้น ภาครัฐกำลังพิจารณามาตรการเพิ่มเติม เช่น “ช้อปดีมีคืน” และ “Easy E-Receipt” ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต
หากมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทั้งสองโครงการดังกล่าว คาดว่ากลุ่มบริษัทและสินค้าที่จะได้รับอานิสงส์ ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ โดยหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC และบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7
ส่วนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการนี้ ได้แก่ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI และบริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP
อนึ่ง CRC ประกอบธุรกิจ ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งท่มีรูปแบบที่หลากหลาย (Multi-Format and Multi-Category Platform) โดยผ่านการถือหุ้นในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
COM 7 ประกอบธุรกิจหลักในการค้าปลีกสินค้าไอที ประเภทคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบพกพา สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นผู้ให้บริการศูนย์ซ่อมแซ่มสินค้าแอปเปิ้ล (iCare)
SPVI ประกอบธุรกิจหลักเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่าย (Reseller) ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple ทั้งคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ประเภท iOS และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ Apple เป็นหลัก เพื่อที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายธุรกิจการบริการให้แก่ลูกค้า โดยมีศูนย์บริการสำหรับสินค้าภายใต้ตราผลิตภัณฑ์ Apple ในนาม iCenter
TNP ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภายใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 45 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 44 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา