หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PLT ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ จำนวน 17.53 ล้านบาท เติบโต 145.09% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 49.09 ล้านบาท เติบโต 35.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.85% เติบโตจากระดับ 6.35% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ในเดือนกรกฎาคม 2567 บริษัทได้ซื้อเรือพีลาทัส 66 เพื่อให้บริการเช่าเหมาแบบระยะเวลา (Time Charter) โดยมีค่าใช้จ่ายสำคัญในการเตรียมความพร้อมและรายจ่ายที่เกี่ยวกับเรือลำดังกล่าวที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเริ่มมีรายได้ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในเดือนกรกฎาคมได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา
เมื่อพิจารณาภาพรวมของทั้งไตรมาส บริษัทสามารถสร้างกำไรที่เติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นและมีอัตรากำไรสุทธิเติบโตจากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ กลยุทธ์หลักของบริษัทที่ที่มุ่งเพิ่มเพิ่มศักยภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนเรือขนส่งประเภท Gas Carrier ซึ่งมีความขาดแคลนในตลาดเอเชีย ได้ส่งผลอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่การลงทุนในเรือพีลาทัส 65 ตั้งแต่ช่วงตุลาคม 2566 ซึ่งบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากเรือลำนี้เต็มปี และในเดือนธันวาคม 2566 ยังเริ่มรับรู้รายได้จากการขนส่งทางรถกับผู้จำหน่ายก๊าซ LPG รายใหญ่ของประเทศไทยจนถึงปัจจุบันในไตรมาส 3 ปี 2567 ด้วยเหตุนี้ การรับรู้รายได้จากเรือพีลาทัส 66 จึงส่งผลให้รายได้ของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2567 เป็นจุดสูงสุดของบริษัทตั้งแต่เปิดดำเนินการมา
ส่วนรายได้ในไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 253.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.82% จาก 186.76 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุการเพิ่มขึ้นมาจากสองส่วนหลัก ได้แก่ 1. รายได้จากธุรกิจขนส่งทางเรือทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวน 219.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 44.40 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 25.39% จากปีก่อน และ 2. ธุรกิจขนส่งทางรถจำนวน 34.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 22.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 189.35%
สำหรับงวด 9 เดือนแรก ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 711.74 ล้านบาท เติบโต 24.36% จาก 572.33 ล้านบาทจากปีก่อนหน้าโดยมีการเติบโตทั้งจากธุรกิจขนส่งทางเรือทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจากการเติบโตของธุรกิจขนส่งทางรถ