หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน MGT ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% ในปี 68 บอสใหญ่ “วิทยา อินาลา”คงNet Profit Margin ใกล้เคียงปีนี้ บริหารต้นทุนอยู่หมัด เล็งร่วมมือพันธมิตรพัฒนาสินค้าใหม่ เดินเกม M&A เคมีภัณฑ์อาหารเสริมฐาน
ดร.วิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGT เปิดเผยในงาน Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบปะผู้ลงทุนและนักวิเคราะห์เพื่ออธิบายเกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 รวมถึงแนวโน้มกิจการในอนาคต ว่า ปี 2568 บริษัท MGT ขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโต 20% จากปี 2567 และมุ่งรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้ใกล้เคียงกับปีนี้ หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 จะพบว่า MGT มีการเติบโตทั้งในแง่ของกำไรและยอดขาย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ พร้อมทั้งเตรียมแผนการรับมือและป้องกันความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งยืนยันในการให้บริการที่มีคุณภาพสูงสุดเพื่อสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสและผลกำไรอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปี 2568 อาจเป็นปีที่ท้าทายเนื่องจากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ในเดือนมกราคม ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการค้าขายทั่วโลก แต่ MGT ยืนยันว่าจะเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
ในการกำหนดกลยุทธ์การเติบโตในปี 2568 บริษัทมีกลยุทธ์หลัก 2 รูปแบบ ได้แก่ การเติบโตแบบ Organic Growth หรือการเติบโตจากภายในโดยไม่พึ่งพาการเข้าซื้อกิจการหรือการขยายธุรกิจผ่านพันธมิตรภายนอก และการเติบโตจากแนวโน้มตลาดใหม่ เช่น การจำหน่ายสินค้าตามนโยบายการลดคาร์บอน ซึ่งเป็นการเติบโตที่สอดคล้องกับเทรนด์ของการลดคาร์บอนฟุตปริ๊นท์และการรักษาความปลอดภัยตามกฎระเบียบในระดับโลก มีสินค้าหลากหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร โดยในปี 2568 บริษัทเตรียมร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของตลาดและเพิ่มความหลากหลายในการให้บริการ ทั้งนี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ และเสริมสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การเติบโตแบบ Inorganic Growth ซึ่งหมายถึงการเติบโตที่มาจากการเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ เพื่อขยายขีดความสามารถและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการ
MGT ตั้งเป้าหมายการขยายธุรกิจผ่านการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โดยมุ่งเน้นที่ขนาดธุรกิจหรือรายการที่มีมูลค่าระหว่าง 300-500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตในระยะยาว ปัจจุบัน MGT มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่ครอบคลุมครบวงจรแล้ว แต่ยังขาดการลงทุนในกลุ่มธุรกิจอาหาร ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตในอนาคตของบริษัท