หุ้นอาหารไซส์มินิ เสิร์ฟกำไรแน่น MAGURO กวาดกำไร 9 เดือน 62.4 ล้านบาท เร่งขยายสาขาทำเงิน ล่าสุดเปิดแบรนด์ใหม่ “CouCou” อัพยอด ฟาก AU ปั๊มเงินเข้าพอร์ตแล้ว 210 ล้านบาท โบรกคาดนักท่องเที่ยวหนุนยอดขนมหวาน ชูพิกัด12.10 บาท
หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) อุตสาหกรรมอาหาร ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เติบโตดี โดย บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO บริษัทมีกำไรสุทธิ 29.3 ล้านบาท เติบโต 54.2% ขณะที่ 9 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 62.4 ล้านบาท เติบโต 6.2% ทั้งนี้ MAGURO มีรายได้รวม ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 355.7 ล้านบาท เติบโต 33.2% และ 9 เดือนแรกปี 2567 ทำได้ 973.7 ล้านบาท เติบโต 26.8%
กําไรสุทธิของบริษัทสําหรับ 9 เดือนของปี 2567 ได้รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (One-time expenses) จํานวน 7.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนําบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หากไม่นับรว, ค่าใช้จ่ายนี้ บริษัทจะมีกําไรสุทธิสําหรับ 9 เดือนของปี 2567 อยู่ที่ 68.0ล้านบาท หรืออัตรากําไรสุทธิ7.0% (บนสมมติฐานอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล 20%)
MAGURO ได้เปิดตัวโครงการ The Flavorhood ตั้งอยู่บนประดิษฐ์มนูธรรม บนพื้นที่ 2 ไร่ ที่ประกอบไปด้วย 3 ร้านอาหารในเครือ MAGURO ที่มีการตกแต่งผสมผสานระหว่างความร่วมสมัย แต่ยังคง กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น รวมถึงสวนในโครงการที่มีทั้งรูปแบบ Japanese Garden และ Modern Tropical Garden
ล่าสุด MAGURO เปิดตัวแบรนด์ล่าสุด ลำดับที่ 5 “CouCou” (คุคูว์) ร้านอาหารรูปแบบ All-Day Dining สไตล์ตะวันตก ณ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแบบ All-Day Dining ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ เป็นแบรนด์สุดท้ายของปีนี้
ปัจจุบัน MAGURO Group มีร้านอาหารในเครือ รวมทั้งหมด 35 ร้านจาก 3 แบรนด์ คือ 1.) MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม 18 ร้าน 2.) SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี วัตถุดิบพรีเมียม 6 ร้าน 3.) HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้ หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 11 ร้าน รวมถึงรูปแบบ Specialty เรื่อง Suki ภายใต้ชื่อแบรนด์ HITORI SUKIYAKI ร้านสุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิมใน รูปแบบ Authentic Japanese Sukiyaki Course ในรูปแบบ Stand Alone ซึ่งเปิดสาขาแรกที่เอกมัย 12 ไป เมื่อกลางเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU ไตรมาส 3/2567 มีรายได้ที่ 428 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และ 9 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 1,144 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
กำไรสุทธิไตรมาส 3/2567 ทำได้ 83 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% ส่วน 9 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% โดยมีสาขา ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 ที่ 61 สาขา เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 59 สาขา
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ AU โดยมีราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท โดย AU รายงานการเติบโตของกำไรที่ +55% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ +15% จากไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาส 3/2567 เป็นจำนวน 81 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าการประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ 10% คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/2567 จะเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การเปิดร้านค้าเพิ่มเติมอีก 3 สาขาทำให้เครือข่ายขยายตัวเป็น 66 สาขา และยอดขายที่แข็งแกร่งในร้านสะดวกซื้อและช่องทางอื่นๆ นอกจากนี้ในไตรมาส 4/2564 AU มีความชัดเจนในด้านกำไรที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการวางตำแหน่งแบรนด์ที่มั่นคง การขยายช่องทางการขาย และการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวซึ่งคิดเป็น 30% ของรายได้กลุ่ม คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท
ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินทิศทางธุรกิจของ AUว่า AU รายงานกำไรในไตรมาส 3/2567 ที่ 83 ล้านบาท (+54% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ +15% จากไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งเป็นสถิติกำไรสูงสุดรายไตรมาส โดยที่กำไรสูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์และ consensus ถึง 11% และ 8% ตามลำดับ ขณะที่ กำไรสุทธิใน 9 เดือนแรกปี 2567 คิดเป็น 80% ของประมาณการกำไรทั้งปีของฝ่ายวิเคราะห์ที่ 262 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงให้คำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 12.10 บาท (อิงจาก PER ที่ 32x หรือ – 0.75SD) โดยที่ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากำไรของ AU ในไตรมาส 4/2567 น่าจะคงมีโมเมนตัมบวก ซึ่งทำให้มี upside ต่อประมาณการกำไรปี 2567
ขณะที่ ปัจจัยบวกต่าง ๆในไตรมาส 4/2567 ประกอบด้วย การเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1-2 แห่งภายในประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายร้านขายขนมหวานและการเปิดสาขาใหม่ในกัมพูชาในเดือนตุลาคมซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า