หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุถึง ว่า AU “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 13.50 บาท “คาดกำไร 4Q67 โตต่อเนื่อง YoY QoQ และปรับประมาณการกำไรปี 67 เพิ่มขึ้น 10% เติบโต 66%YoY” งวด 3Q67 มีกำไร 83 ลบ. +55%YoY +15%QoQ (เติบโตดีกว่าที่คาดว่าจะทรงตัว QoQ) โดยมีรายได้428 ลบ. +27%YoY +14%QoQ มีปัจจัยเติบโตหลักจาก 2 ส่วนธุรกิจ คือ1) ธุรกิจร้านขนมหวาน After You (สัดส่วน 82%) +17%YoY จากการขยายสาขาสู่61 สาขา (+2 สาขาYoY +0 สาขา QoQ) ประกอบกับ SSSG คงเติบโต 4.5% และยอดขายต่อบิลที่สูงขึ้นจากกำลังซื้อที่เติบโตดีและกระแส Viral ในสินค้ากลุ่มโทสต์จากชาวมาเลเซีย และ 2) ธุรกิจขายสินค้า (สัดส่วน 15%) +182%YoY เติบโตดีจากการเริ่มวางขาย “ขนมปังเนยโสด” ในร้าน 7-Eleven เมื่อช่วง ก.ค.ที่ผ่าน มาซึ่งได้กระแสตอบรับดีมาก ส่วน %GPM ลดลงเล็กน้อยสู่ 65.4% (3Q66 = 66.0%, 2Q67 = 66.5%) จากการวางขายสินค้าในร้านสะดวกซื้อที่มีอัตราก าไรต่ ากว่า ทั้งนี้9M67 มีก าไร210 ลบ. +60%YoY และคิดเป็น 78% ของประมาณการทั้งปี67 เดิมที่268 ลบ. +51%YoY
คาดกำไร 4Q67 เติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ จากการเข้าสู่ High Season และปรับประมาณการกำไรปี 67 เพิ่มขึ้น 10% สู่ 296ลบ. +66%YoY : โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศในช่วงปลายปีและฤดูกาลท่องเที่ยวของต่างชาติ สะท้อน SSSG เดือนต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมายังเป็นบวก โดยหลักยังคงได้แรงหนุนจากสาขาภาคใต้ (หาดใหญ่) ที่ได้รับกระแส Viral ในสินค้ากลุ่มโทสต์จากชาวมาเลเซีย
รวมทั้งปัจจัยหนุนเฉพาะตัว คือ 1) ธุรกิจร้านขนมหวานยังมีแผนขยายสาขาอีก 2 สาขา โดยเน้นเปิดในพื้นที่ที่มีก าลังซื้อสูงและคนหนาแน่น 2) เพิ่งเปิด AfterYou สาขาแรกที่พนมเปญ 3) รีแบรนด์ร้าน Mikka Cafe เป็น Mikka Coffee Roasters เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Premium มากขึ้น 4) เปิดร้านแบบ Pop-up Store ตามสถานที่ท่องเที่ยว และ 5) ร่วมมือกับ “การบินไทย” ให้บริการเสิร์ฟขนมปังแบรนด์ After You(มีสัญญาจนถึงช่วงพ.ค.68)
ทั้งนี้ เราปรับประมาณการรายได้และกำไรปี 67 เพิ่มขึ้น 10% สู่ 1,592 ลบ. +31%YoY และ 296 ลบ. +66%YoY ตามลำดับ สะท้อนกำไร 3Q67 สูงกว่าคาด 14% และก าไร 9M67 คิดเป็น 78% ของประมาณการเดิม คาดการณ์กำไรปี 68 ราว 332 ลบ. +12%YoY : คาดการณ์รายได้และกำไรปี 68 ราว 1,810 ลบ. +14%YoY และ 332 ลบ. +12%YoY ตามลำดับ จากปัจจัยสนับสนุนหลัก 2 ประการ คือ 1) แผนขยายสาขา After You ราว 7-10 สาขา สู่ทั้งหมด 70-73 สาขา และ 2) รับรู้รายได้จากการวางขายสินค้าในร้าน 7-Eleven เต็มปี รวมทั้งแผนการเพิ่มกำลังการผลิตให้ครอบคลุมร้าน 7-Eleven 14,000 สาขา คาดแล้วเสร็จภายในช่วง 1Q68 โดยหากเทียบกับช่วง 3Q67 ที่มีรายได้จากกลุ่มดังกล่าวราว 30 ลบ./ไตรมาส ซึ่งปัจจุบันครอบคลุม 7-Eleven เพียง 8,000-9,000 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเราประเมินเบื้องต้นหากวางจำหน่ายสินค้าครอบคลุม 7-Eleven ทุกสาขา คาดจะทำให้มีรายได้ส่วนเพิ่มราว 150-200 ลบ./ปี (เฉพาะกลุ่มสินค้าขนมปังเนยโสด ยังไม่รวมแผนการนำสินค้าอื่นๆเข้ามาขายเพิ่มเติม)
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆเพิ่มเติม อาทิ การขยายในตลาดต่างประเทศทั้งในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ หรือหา Distributor เพื่อจำหน่ายสินค้า (ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจา) การทยอยออกสินค้าใหม่ๆ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Easy e-receipt ซึ่งจะเริ่มใช้สิทธิช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ.68
คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเหมาะสม 13.50 บาท อัพไซต์ 26% คงประเมินราคาเหมาะสมของ AU ที่ 13.50 บาท ด้วยวิธี Discounted Cash Flow (DCF) บนสมมติฐาน WACC 8% และ Terminal Growth 3% โดยแม้ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PE 34x สูงกว่ากลุ่มที่ราว 25-30x (PE: M = 16x, ZEN = 24x, MAGURO = 33x, OKJ = 44x) แต่บริษัทมีศักยภาพการเติบโตต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปีจากนี้ราว 10-20% ต่อปี จากแบรนด์ที่ติดตลาด แผนการขยายสาขา ขายแฟรนไชส์ การวางขายสินค้าใน Modern Trade ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ได้รับกระแสนิยมทุกปี โดยราคาหุ้นมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 26% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”