ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

[Vision Exclusive] A5 Move to SET โค้งท้ายบุ๊กยอดอื้อ

          หุ้นวิชั่นทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เตรียมย้ายหลักทรัพย์จากตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยการย้ายนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

          A5 เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้ บริษัทมีบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจหลักคือการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเพื่อขาย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมสร้างการเติบโตของบริษัทในอนาคต ปัจจุบัน A5 มีบริษัทย่อย ประกอบไปด้วย บริษัท แอสเซที่ ไฟว์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ “AFD” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ี ประกอบธุรกิจหลักโดยบริษัท ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของที่ทุนจดที่ะเบียนชำระแล้ว

 

          บริษัท รชยาเรียลเอสเตท จำกัด หรือ “RCY” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AFD  99.99% ของที่ทุนจดที่ะเบียนชำระแล้ว

          บริษัท เอไฟว์ ดีไซน์ จำกัด หรือ “A5D” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AFD 99.99% ของที่ทุนจดที่ะเบียนชำระแล้ว และ บริษัท ต้นสน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ “TONSON” ซึ่งบริษัท ถือหุ้นในสัดส่วน 47.50% ของทีทุนจดที่ะเบียนชำระแล้ว

          นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า การย้ายหลักทรัพย์ A5 จากตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คาดว่าจะช่วยดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติและกองทุนให้มาลงทุนใน A5 มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีการซื้อบิ๊กล็อตจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน A5 โดยกองทุนระดับโลก และยังมีการเจรจากับนักลงทุนต่างชาติรายอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เห็นสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและผลงานที่เติบโตตามเป้าหมาย

          นอกจากนี้บริษัทไม่ได้ปิดกั้นโอกาสในการพูดคุยหรือการต่อยอดธุรกิจ ซึ่งสามารถเป็นไปได้ทั้งในรูปแบบของการร่วมลงทุน (Joint Venture) หรือลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต

          ทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้คาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวนมาก โดยบริษัท มียอดรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 1 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ในไตรมาสสุดท้ายนี้ประมาณ 60-70%

          สำหรับทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมยังมีมุมมองที่เติบโตได้ยาก แต่ด้วยขนาดของ A5 ที่อยู่ในระดับกลาง และไม่ได้ใหญ่มากทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้ เนื่องจาก A5 ไม่ได้ลงเล่นในทุกเซกเม้นต์ แต่เน้นตลาดบนและกลางที่มีกำลังซื้อ

          ในส่วนของทิศทางการเติบโตในปี 2568 คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ โดย A5 จะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง หนี้สินไม่มาก ใช้สินเชื่อในระดับต่ำ หรือกู้เงินเพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุนและดำเนินธุรกิจต่อไป

          คีย์สำคัญของความสำเร็จของ A5 คือการมุ่งเป้าไปยังตลาดกลุ่มบลูโอเชี่ยน หรือกลุ่มผู้ที่สร้างบ้านเอง โดยบริษัทเห็นว่าการสร้างบ้านเองไม่ใช่เรื่องง่าย และมีความเสี่ยงในด้านต่างๆ เช่น การออกแบบ การเลือกวัสดุ และการจัดการผู้รับเหมา รวมถึงการควบคุมกระบวนการก่อสร้างที่อาจส่งผลต่อคุณภาพการอยู่อาศัย

          A5 มีโครงการที่มีขนาดตั้งแต่ 700 ถึง 1,000 ตารางเมตร โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30 ล้านบาทถึง 200 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มบลูโอเชี่ยนมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงถึง 2 แสนล้านบาทในอนาคต ส่งผลให้ A5 มีโอกาสขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

          ปัจจุบัน A5 มีแบรนด์ที่โดดเด่นในโครงการ ได้แก่ แซงค์ รอยัล และ วนา เรสซิเด้นท์ โดยมูลค่าขายของโครงการแซงค์ รอยัล อยู่ที่ 60-200 ล้านบาท ส่วนวนา เรสซิเด้นท์มีมูลค่าขายอยู่ที่ 30-60 ล้านบาท

          นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการแซงค์ รอยัล 1 ซึ่งเป็นโครงการระดับ Luxury มูลค่า 1,650 ล้านบาท ตั้งอยู่ย่านบางนา กม.7 ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ในปี 2568 คาดว่าจะเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์วนา เรสซิเด้นท์ มูลค่าราว 30-60 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตให้กับบริษัทต่อไปในอนาคต

          “ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์น่าจะค่อยๆ ดีขึ้น เพราะดอกเบี้ยเริ่มลดลง เงินบาทก็แข็งค่า ลูกค้าหันมาสนใจเข้ามาดูโครงการมากขึ้น และกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ในส่วนของตลาดระดับบนและกลาง มองว่ายังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้อีกเยอะเลย” นายศุภโชค

รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SCL ปล่อยของในงาน TAPA 2025  ตอกย้ำผู้นำอะไหล่รถยนต์

SCL ปล่อยของในงาน TAPA 2025 ตอกย้ำผู้นำอะไหล่รถยนต์

SMD100 เปิดตัว ZenSync เขย่านวัตกรรมพลังสมอง

SMD100 เปิดตัว ZenSync เขย่านวัตกรรมพลังสมอง

BKA เคาะ IPO 1.80 บ. สยายปีก mai 22 เม.ย.นี้

BKA เคาะ IPO 1.80 บ. สยายปีก mai 22 เม.ย.นี้

WARRIX กำไรปี 68 โต 26% โกลเบล็กอัพเป้าใหม่ 4.75 บ.

WARRIX กำไรปี 68 โต 26% โกลเบล็กอัพเป้าใหม่ 4.75 บ.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด