โกลเบล็ก แนะ”ซื้อ” KLINIQ เป้าสวย 39.60 บาท

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด แนะ “ซื้อ” บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ราคาเหมาะสม 39.60 บาท

**ประเด็นสำคัญในการลงทุน**

**งวด 3Q67** บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 74 ล้านบาท ทรงตัว QoQ, +4% YoY ต่ำกว่าที่คาดราว 7% จากค่าใช้จ่ายขายที่สูงขึ้น
บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 750 ล้านบาท +7% QoQ, +27% YoY ใกล้เคียงคาด รายได้เติบโตจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) +2.8% YoY และรายได้จากสาขาใหม่ ในงวด 3Q67 มีการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา คือแบรนด์ The KLINIQUE ที่จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ ณ สิ้นงวด 3Q67 มีสาขารวมทั้งหมด 69 สาขา มีอัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) ที่ระดับ 51.5% ปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ จาก 50.5% ในงวด 2Q67 เนื่องจากสาขาที่เปิดไปมากจำนวน 10 สาขาในงวด 1Q67 ทยอยถึงจุดคุ้มทุน แต่ลดลง YoY จากระดับ 53.8% ใน 3Q66 จากการเติบโตของรายได้จาก THE KLINIQUE SURGERY CENTER และ L.A.B.X ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมี %GPM ต่ำกว่าแบรนด์ THE KLINIQUE มี %SG&A to Sales ที่ระดับ 39.2% เพิ่มขึ้นจาก 39.0% และ 38.1% ในงวด 3Q66 และ 2Q67 ตามลำดับ สาเหตุหลักจากบริษัทมีการเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการตลาด แต่รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 74 ล้านบาท ทรงตัว QoQ, +4% YoY ช่วง 9M67 มีรายได้จากการขาย 2,139 ล้านบาท +30% YoY กำไรสุทธิ 223 ล้านบาท +6% YoY

**ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67 และปี 68 ลดลง 8% และ 6% ตามลำดับ**
ปรับลดคาดการณ์รายได้ปี 67 และปี 68 ลง 4% และ 11% ตามลำดับ เป็น 2,939 ล้านบาท +29% YoY และ 3,439 ล้านบาท +17% YoY ตามลำดับ เติบโตจากยอดขายสาขาเดิมที่มีจำนวน 55 สาขาในปี 66 และการเติบโตจากการเปิดสาขาใหม่จำนวน 20 สาขาในปี 67 แบ่งเป็นแบรนด์ THE KLINIQUE 10 สาขา และ L.A.B.X 10 สาขา ช่วง 9M67 เปิดสาขารวม 14 สาขา ประกอบกับการเติบโตของรายได้ศูนย์ศัลยกรรมที่มีความโดดเด่นเรื่องการทำหน้าอกและการทำจมูก และปี 68 บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 10 แห่ง มีสมมติฐาน %GPM ที่ระดับ 50.9% และ 51.5% ตามลำดับ ปรับตัวลงจากปี 66 ที่ระดับ 54.0% จากสัดส่วนรายได้ของแบรนด์ L.A.B.X และ Surgery Center ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมี Margin ต่ำกว่าแบรนด์ THE KLINIQUE สมมติฐาน %SG&A to Sales ที่ระดับ 38.4% และ 38.3% ตามลำดับ ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิปี 67-68 เท่ากับ 301 ล้านบาท +4% YoY และ 363 ล้านบาท +21% YoY ตามลำดับ โดยกำไรในช่วง 9M67 คิดเป็นสัดส่วน 73% ของประมาณการใหม่ในปี 67

**คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับใช้ราคาเหมาะสมเป็นปี 68 ที่ 39.60 บาท**:
แม้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดประมาณการกำไรปี 67 และ 68 แต่ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในปี 68 ที่คาดจะกลับมาเติบโตจากอัตราการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับรายได้ที่เติบโต และการควบคุมค่าใช้จ่าย ประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PER โดยใช้ PE Ratio ระดับ -1SD ที่ 24x

คาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 68 เท่ากับ 1.65 บาทต่อหุ้น ทำให้ได้ราคาเหมาะสมปี 68 เท่ากับ 39.60 บาท จากราคาหุ้นที่ปรับตัวลง -25% YTD ทำให้ราคาเหมาะสมมี Upside จากราคาปัจจุบันราว 21% ขณะที่คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ในอนาคตราว 4.5% ต่อปี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

IPO ปิดแรงสุดแห่งปี! LTS-APO-SEI เกิน100%

IPO ปิดแรงสุดแห่งปี! LTS-APO-SEI เกิน100%

เก็ง Easy E-Receipt ชู TNP-SPVI-JUBILE

เก็ง Easy E-Receipt ชู TNP-SPVI-JUBILE

[ภาพข่าว] MMM ต้อนรับคณะผู้บริหาร “ก.ล.ต.- ตลท.” รับฟังข้อมูลธุรกิจ

[ภาพข่าว] MMM ต้อนรับคณะผู้บริหาร “ก.ล.ต.- ตลท.” รับฟังข้อมูลธุรกิจ

BLESS x ShooShoke รณรงค์กำจัดขยะ (Food Waste) ด้วยระบบ Zero Waste

BLESS x ShooShoke รณรงค์กำจัดขยะ (Food Waste) ด้วยระบบ Zero Waste

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด