บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทย Sideway ออกข้าง หลังไม่สามารถผ่าน 1,500 จุดไปได้ แม้ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายมีแนวโน้มฟื้นตัวจากเงินเฟ้อชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยขาลง แต่ปัจจัยความไม่สงบในตะวันออกกลางและสงครามยังกดดันการลงทุน จึงให้กรอบดัชนี 1,450-1,500 จุด และกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของกนง. ได้แก่ MTC-SAWAD-TIDLOR-GULF-GPSC-BGRIM-SIRI-SC-SPALI
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยดัชนียังเผชิญแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด แม้ว่าภาพเศรษฐกิจไทยช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวจากเงินเฟ้อชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยขาลง รวมทั้งการเข้าสู่ไฮซีซั่นในช่วงปลายปี
แต่จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ WTI กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในชวงไตรมาส 3 ปี 2567 พบว่า ความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 45.1 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 45.2 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง จึงมองกรอบดัชนีที่ระดับ 1,450-1,500 จุด
ส่วนภาวะเศรษฐกิจจีนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 4.8% ต่ำกว่าเป้าหมายเศรษฐกิจของปีนี้ที่ตั้งไว้ประมาณ 5% และที่สำคัญรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนที่พัฒนาและผลิตอาวุธให้กับรัสเซียโดยตรงเพื่อใช้ทำสงครามกับยูเครน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกสำหรับการคว่ำบาตรบริษัทจีน ขณะที่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนประกาศว่า การทำสงครามกับอิสราเอลกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ที่ทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลังการสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส
ด้านปัจจัยในประเทศที่ยังคงต้องจับตาต่อ สัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย, สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, 30 ต.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ, 31 ต.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตาวันนี้ 22 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนต.ค., วันที่ 23 ต.ค. สำนักข่าว CNN จัดโต้วาทีครั้งที่ 2 สำหรับผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ, สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์เช้าวันที่ 24 ต.ค., เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) 24 ต.ค., ญี่ปุ่น รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนต.ค., สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนต.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ได้แก่ MTC, SAWAD, TIDLOR, GULF, GPSC, BGRIM, SIRI, SC และ SPALI
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.50% ภายในปี 2567 ประกอบกับความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น หลังอิสราเอลยืนยันการเสียชีวิตของผู้บัญชาการฮิซบอลเลาะห์ และผู้นำกลุ่มฮามาส หนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 2,680 – 2,750 $/Oz จึงแนะนำเก็งกำไรในกรอบราคาดังกล่าว