หุ้นวิชั่น – บล.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ระบุ US ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 68 เป็นต้นไป ขณะที่สำหรับประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าสูง จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้นตามระดับที่กำหนด ตามแนวทาง Reciprocal tariffs ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 68 เป็นต้นไป โดยกรณีของไทยถูกกำหนดอัตราภาษีนำเข้าไว้สูงถึง 36% แม้เป็นการตอบโต้เพียงครึ่งหนึ่งของระดับอุปสรรคที่สหรัฐฯ ประเมินไว้ แต่เป็นระดับที่มากกว่าคาดการณ์ สาเหตุมาจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าในระดับสูง และมีระดับอุปสรรคทางการค้ากับสินค้าสหรัฐฯ สูงถึง 72% ซึ่งรวมถึงอัตราภาษีนำเข้าที่สูงกว่าของสหรัฐฯ อย่างมาก กฎระเบียบทางศุลกากรที่ซับซ้อน รวมถึงการห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภท เช่น เนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง
• พันธบัตร US1YT=3.99%, US2YT=3.79%, US10YT=4.05%;
• หุ้นโลก DJ +235 จุด (+0.5%), NASDAQ +151 จุด (+1.6%), Nikkei −1,350 จุด (−3.8%), HSI Futures −115 จุด (−0.5%);
• โภคภัณฑ์ Brent=$72.5, GRM=$2.81, Gold Futures=$3,143, BDI=1,583 จุด;
• ค่าเงิน TH฿/US$=34.3-34.5;
กลยุทธ์การลงทุน: ประเมินดัชนีปรับตัวลง รับแรงกดดันจากมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ของสหรัฐฯ ต่อไทยที่รุนแรงกว่าที่คาด ขณะที่โมเมนตัมระยะสั้นของ SETI/SET50I ยังเป็นลบ ในเชิงกลยุทธ์ ระบบแนะนำคงน้ำหนักหุ้นที่ 55% (=55%, =0%) รอสัญญาณการกลับตัวของดัชนี โดยในระยะสั้นเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic ตามธีมการลงทุนหลักที่เราแนะนำ และหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มส่งออก
➢ Ft Cut Play หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากการลดค่าไฟฟ้า ได้แก่ ADVANC, BJC, CPALL, CPAXT, TRUE
➢ Recovery Play หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากการซ่อมแซมอาคาร ได้แก่
• กลุ่มวัสดุก่อสร้าง: SCC, SCCC, SCGD, TOA
• กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง: HMPRO, DOHOME, GLOBAL
• กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง: CK, STECON
➢ Dividend Play ทยอยสะสมหุ้นปันผลสูงและสม่ำเสมอ แนะนำ SCB, KBANK, TCAP, TISCO, TTB
➢ ESG Ratings Play เน้นหุ้นที่มี SET ESG ratings ระดับ A ขึ้นไปและกำไรยังเติบโต แนะนำ BDMS, CPALL, GULF, MINT
➢ Quantamental Play หุ้น Strong Buy ตาม Quantamental Strategy Matrix ได้แก่ BCPG, BJC, CPF, KBANK, KKP, KTB, PTT, TCAP, TLI