ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

บล.ทิสโก้ ชี้ หุ้นไทยปี 68 เจอแรงกดดันเพียบ ! แนะเลือกลงทุน “เน้นปลอดภัย – ทนต่อปัจจัยกดดัน”

          หุ้นวิชั่น – 3 ม.. 68 – บล.ทิสโก้เปิดข้อมูลหุ้นไทยปี 2567 ให้ผลตอบแทนติดลบสองปีซ้อนครั้งแรกในรอบ 26 ปี และผลตอบแทนแย่กว่าหุ้นโลก 2 ปีติด ชี้ปี 2568 จ่อเจอปัจจัยกดดันเพียบ ! ทั้งนโยบายทรัมป์ เศรษฐกิจไทยเผชิญสงครามการค้า กำไร บจ.อาจถูกลด และการเมืองในประเทศส่อแววร้อนแรง แนะลงทุนปีนี้ต้องเน้นความปลอดภัยสามารถต้านแรงเสียดทานจากปัจจัยภายในและภายนอกได้

          นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ดีสำหรับการลงทุน เพราะสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ และคริปโตฯ ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยโลกขาลงและเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า อย่างไรก็ดี หุ้นไทยให้ผลตอบแทนแย่กว่าหุ้นโลก 2 ปีซ้อนและเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี ที่ให้ผลตอบแทนติดลบ 2 ปีติดต่อกัน สาเหตุที่ทำให้หุ้นไทยมีผลงานย่ำแย่ต่อเนื่อง นอกจากปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนไม่เติบโตแล้ว ยังมีหลายกรณีของหุ้นรายตัวที่กระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนอย่างต่อเนื่องรวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศที่วุ่นวายจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี

          สำหรับปี 2568 บล.ทิสโก้ มองว่าตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยเฉพาะนโยบายนายโดนัล ทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะยาว ทำให้วัฎจักรดอกเบี้ยโลกขาลงอาจจบรอบเร็วกว่าคาด  จากการประเมินของบล.ทิสโก้ หากทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีตามที่หาเสียงไว้ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นได้ถึง 1.2%

          นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ มองประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะเติบโตราว 3% มีความเสี่ยงจากประเด็นการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยความท้าทายที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด จากการประเมินเบื้องต้นอาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยราว 0.3-1.1% ขึ้นอยู่กับว่าระดับความรุนแรงของสงครามการค้าจากสหรัฐฯ ทั้งอัตราการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าและจะถูกขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่น ๆ ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากน้อยเพียงใด

          ด้านกำไรต่อหุ้นของตลาด (SET EPS) ปี 2568 ที่คาดเติบโตราว 11-12% ยังมีความไม่แน่นอนสูง เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คาดการณ์ SET EPS มักจะถูกปรับลงจากช่วงต้นปีเสมอ ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทจดทะเบียนมักมีการด้อยค่าสินทรัพย์และ/หรือค่าใช้จ่ายพิเศษในระหว่างปีจากความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าเงินบาท ซึ่งในปี 2568 ความคาดเดาได้ยากของทรัมป์จะเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ ทั่วโลก

          สำหรับปัจจัยการเมืองปีนี้ส่อแววร้อนแรงขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีคำร้องที่เป็นปรปักษ์กับรัฐบาลชุดปัจจุบันอยู่หลายกรณีทั้งที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ และนายกรัฐมนตรีแพทองธาร นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองจากประเด็นต่าง ๆ ที่อาจถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเงื่อนไขทางการเมือง เช่น ปัญหา MOU 44, การนิรโทษกรรม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น บล.ทิสโก้ มองปัจจัยการเมืองจะมีน้ำหนักกดดันตลาดมากขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบต่าง ๆ คาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

          ผสานกับปีนี้จะเป็นปีแรกที่เงินกองทุน LTF รวมทั้งสิ้น 2.30 แสนล้านบาทสามารถขายได้ครบทุกกอง (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2567) อาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดในต้นปีนี้ เพราะโดยปกติเงินกองทุน LTF มักถูกขายคืนในช่วงต้นปีมากที่สุด  ท่ามกลางความไม่แน่นอนรอบด้าน บล.ทิสโก้ มองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ต้องเน้นความปลอดภัยสามารถต้านแรงเสียดทานจากปัจจัยภายในและภายนอกได้ เน้นกระจายการลงทุนใน 3 ธีม ดังนี้ 1. หุ้นเชิงรับคุณภาพดี แนะนำ BDMS และ BEM 2. หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ดีต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 แนะนำ SPA และTASCO และ 3. หุ้นปันผลเด่นเน้นที่อยู่ใน SETHD Index แนะนำ ADVANC SIRI และ TTB  ดังนั้น หุ้นเด่นที่บล.ทิสโก้ แนะนำในเดือนมกราคม คือ ADVANC, BDMS, BEM, SIRI, SPA, TASCO และ TTB  ด้านแนวรับสำคัญเดือนนี้อยู่ที่ 1,380 จุด และ 1,360 จุดตามลำดับ และแนวต้านสำคัญเดือนนี้อยู่ที่ 1,420 จุด 1,440 จุด 1,450 จุด ตามลำดับ

[PR News]

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โครงสร้างการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ

โครงสร้างการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ

จับตา AI agent พลิกโฉมธุรกิจ-จ้างงาน PwC คาดอีกไม่เกิน 12-24 เดือน   

จับตา AI agent พลิกโฉมธุรกิจ-จ้างงาน PwC คาดอีกไม่เกิน 12-24 เดือน  

[Vision Exclusive] Virtual Bank คืบ! เขย่าธนาคารดั้งเดิม

[Vision Exclusive] Virtual Bank คืบ! เขย่าธนาคารดั้งเดิม

KH Academy จัดพิธีปิด Prep for Fund Manager รุ่น3

KH Academy จัดพิธีปิด Prep for Fund Manager รุ่น3

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด