D ทุ่ม 30ล. ผุดสาขาทำฟันลักชัวรี
หุ้นวิชั่น - D คาดแนวโน้มธุรกิจปี 68 สดใส เทรดดิ้งรับอานิสงส์งบรัฐเบิกจ่าย เล็งปีนี้ 400 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "พรศักดิ์ ตันตาปกุล" ควักเงิน 30 ล้าน ผุด 4 สาขาทันตกรรมใหม่ เจาะต่างชาติทำเงิน ปักหมุดโลเคชั่นลักชัวรี ดีเดย์สาขาแรก 1 มีนาคมนี้ พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 15-20% ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2568 มีทิศทางสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากการจัดสรรงบประมาณภาครัฐที่คาดว่าจะออกได้ตามกำหนดเวลา หรือในช่วงปลายปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการประมูลงานและการใช้จ่ายในภาครัฐให้กลับสู่ภาวะปกติ สำหรับธุรกิจเทรดดิ้งของ D คาดว่าปี 2568 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นแตะระดับ 400 ล้านบาท จากประมาณการปี 2567 ที่ 350 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการประมูลงานในภาคการศึกษาด้านทันตกรรม โดยคณะทันตแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ คาดว่าจะเริ่มเปิดการประมูลเพิ่มขึ้น หลังจากในช่วงโควิดงบประมาณส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ ในแต่ละปี มูลค่าการประมูลงานในภาคการศึกษาทางทันตกรรมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท โดย D มีส่วนแบ่งงานประมูลเฉลี่ยที่ 100-120 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในปี 2568 ทิศทางธุรกิจทันตกรรมในปี 2568 จะเป็นบวก โดยได้รับผลดีจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ค่าใช้บริการไม่สูงมาก อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าหมายขยายตลาดไปยังลูกค้าต่างชาติ หลังจากที่ในปีที่ผ่านมา สัดส่วนลูกค้าต่างชาติเติบโตสูงกว่าช่วงก่อนโควิด ในปี 2568 บริษัทเตรียมเปิดสาขาทันตกรรมเพิ่มอีก 4 แห่งจากปัจจุบันที่มี 16 แห่ง โดยสาขาแรกจะตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท ซึ่งบริษัทได้เซ็นสัญญาพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 มีนาคม 2568 ภายใต้แบรนด์ "สุไมล์ ซิกเนเจอร์" (Smile Signature) สำหรับสาขาที่ 2 คาดว่าจะเปิดที่จังหวัดภูเก็ต โดยบริษัทจะใช้แบรนด์ Smile Signature จากเดิมที่มีคลินิกทันตกรรมแบรนด์ BIDC แล้ว และทำเลที่ตั้งจะอยู่ในพื้นที่หาดบางเทา ซึ่งเป็นทำเลลักชัวรีของเกาะภูเก็ต ขณะที่สาขาที่ 3 จะเปิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบริษัทมีสาขาคลินิกทันตกรรม BIDC อยู่แล้วที่ถนนนิมมาน สาขาที่ 4 บริษัทตั้งเป้าเปิดที่พัทยา โดยทั้ง 3 สาขาในต่างจังหวัดยังอยู่ระหว่างการหาทำเลที่เหมาะสม โดยบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ทุกไตรมาสในปี 2568 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่วนงบลงทุนในการเปิดสาขาใหม่ 4 แห่ง คาดจะใช้เงินลงทุนราว 30 ล้านบาท ทพ.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทิศทางการเติบโตในปี 2568 จะอยู่ที่ระดับ 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยคาดว่า ค่าใช้จ่ายต่อบิลจะเพิ่มขึ้น 5-10% จากการปรับค่าบริการ รวมถึงการเติบโตของโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ “BIDH” ที่ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 2 ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง การเติบโตนี้สะท้อนถึงการขยายตัวของธุรกิจทันตกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย D ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision