หุ้นวิชั่น- “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” นำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้ชื่อย่อ ‘VAYU1’ หลังกระแสตอบรับล้นหลามจากผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนสถาบันในการเสนอขายหน่วยลงทุนที่ผ่านมา ชูอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 3 % ต่อปี และขั้นสูงไม่เกิน 9 % ต่อปี คงที่ตลอด 10 ปี ขุนคลังชี้ ปัญหาอุปสรรคการลงทุนเริ่มคลี่คลายแล้ว
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้วางแนวทางการระดมทุนผ่านหน่วยลงทุนประเภท ก. ของ “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” หรือ “VAYU1” เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ หลังจากตลาดทุนไทยมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา การนำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เชื่อว่ากองทุนฯ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนฯ
สำหรับการเปิดการซื้อขายวันแรกเป็นไปอย่างน่าพอใจ โดย ‘VAYU1’ มีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ต่อปี และสูงสุดไม่เกิน 9% นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังเพิ่มขึ้นจากการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ปรับปรุงกติกาต่างๆ ให้เหมาะสมมากขึ้น ส่งผลให้คาดว่ามีเม็ดเงินลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายพิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยยังมีเงินทุนในรูปแบบเงินฝากและตราสารหนี้ (Fixed Income) ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับพอร์ตการลงทุนจากตราสารหนี้คงที่ไปสู่ตราสารที่มีอัตราผลตอบแทนแบบลอยตัว (Floating) มากขึ้น ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงในส่วนของการส่งเสริมการลงทุน แม้เคยมีอุปสรรคในช่วงที่ผ่านมา แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และต้องติดตามว่ามาตรการใดจะถูกปรับใช้เพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังดำเนินมาตรการเข้มงวดสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่เหมาะสม
นายพิชัยยังกล่าวว่า ประสิทธิภาพของเครื่องจักรทางเศรษฐกิจปัจจุบันจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ โดยเฉพาะการดึงดูดนักลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งหากทำสำเร็จ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตลาดได้มากขึ้น สำหรับกรอบเงินเฟ้อของไทย ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้และต่ำกว่ากรอบล่าง ซึ่งจำเป็นต้องมีการพิจารณาปรับเพื่อให้สอดคล้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกรอบเงินเฟ้อที่เหมาะสมในภูมิภาคนี้อยู่ที่ประมาณ 2-3% ซึ่งสูงกว่าไทยเล็กน้อย
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในนามของคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่กองทุนฯ เสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้าลงทุนในตลาดทุนผ่านการลงทุนในกองทุนฯ ทำให้กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นหนึ่งในกองทุนรวมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ประมาณ 5 แสนล้านบาท และด้วยการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนฯ เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. จำนวน 1.5 แสนล้านบาท และส่งเสริมให้กองทุนฯ มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงมากขึ้น และสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่นักลงทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนสถาบันทุกราย สำหรับการตอบรับการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนฯ อย่างล้นหลาม ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่แข็งแกร่งในระยะยาว สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. กองทุนฯ ได้เริ่มนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนของกองทุนฯ แล้ว โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน