SSP เร่งเครื่อง! อัพกำลังผลิตเท่าตัวใน 5 ปี ส่งสัญญาณยอดขายไฟพุ่ง

          หุ้นวิชั่นบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ SSP มีเป้าหมายในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ภายในระยะเวลา 5 ปี บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตผ่านโครงการใหม่ ๆ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพ โดยเน้นพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวทางหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจของ SSP ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

          ทีมข่าวหุ้นวิชั่นจะพาไปเจาะลึก แนวโน้มการเติบโตของ SSP ผ่านบทวิเคราะห์จากสองโบรกเกอร์ชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยมุ่งเน้นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการขยายตัวในอนาคต ทั้งด้านกำลังการผลิตไฟฟ้าและแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาว พร้อมการประเมินทิศทางการเติบโตที่น่าสนใจ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ SSP ดังนี้

          บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 7.50 บาท อิง DCF (WACC 5.7%, TG 0%) โดยประเมินจากการพัฒนาธุรกิจยังมีพัฒนาการที่ดีตามแผน โดย เริ่มต้นจากโครงการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนในช่วง 19-23 สิงหาคม 2567 จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่ารวมราว 716 ล้านบาท บริษัทไม่ได้ต้องการขายคืนเพียงแจ้งตามกระบวนการของตลาดฯ โดยหลังจากโครงการเสร็จสิ้นจะนำหุ้นทั้งหมดไปลดทุน

          การปรับปรุงโครงการ SPN 40MW จะเริ่มทยอยทำในช่วง ครึ่งปีหลัง 2567 ถึง ครึ่งปีแรกปี 2568 และจะช่วยให้กลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นจากปัจจุบันราว 20-30% และ SSP ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเดินหน้าตามแผน โดยโครงการใหญ่ Philippines Solar 150MW คาดได้ข้อสรุปในปี 2567

          ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ปัจจัยหลักจากโครงการ Windchai 45MW สามารถรับรู้รายได้เต็ม รวมถึงเข้า high season เบื้องต้นฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 870 ล้านบาท (ทรงตัว YoY)

          ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2567 เติบโตได้ดี โดยมีปัจจัยหนุนคือการเข้า high season โรงไฟฟ้าพลังงานลมการรับรู้รายได้โครงการ Windchai เต็มครึ่งปีหลัง โครงการ UTP มีการซ่อมบำรุงน้อยลงหลังเลื่อนบางส่วนขึ้นมาทำในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ไปแล้ว

          ฝ่ายวิเคราะห์มองราคาหุ้น underperform SET ราว -16% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คาดมาจากปัจจัยกดดันผลประกอบการในปี 2567-2568 ทำให้การเติบโตเป็นเรื่องท้าทาย อย่างไรก็ตามประเมินราคา priced in ไปมาก โดยหุ้นเริ่มกลับมาเทรดใกล้เคียงตลาดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาก นอกจากนี้ปัจจุบันยังเทรด PER เพียง 10x อยู่ในระดับ -2SD เป็นกรอบต่ำสุดในรอบ 7 ปี ในขณะที่ Key catalyst ระยะสั้นคือโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่ใกล้เข้ามา และการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนรอบสองในไทย 3.7GW ในช่วงปลายปี 2567 ส่วนระยะยาวยังสามารถเติบโตได้โดยเฉพาะในปี 2570 ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 170MW จะเริ่มทยอย COD

          ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า และมีประเด็นสำคัญในการเติบโต ดังนี้ การเปลี่ยนแผนพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV) ของโครงการแสงอาทิตย์ SPN ขนาด 40MW บริษัทจะใช้เงินลงทุนราว 410 ล้านบาท และเริ่มเปลี่ยนแผงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2567 และเสร็จสิ้นในไตมาส 2/2568 โดยบริษัทประเมินว่ากระบวนการดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้า (Output) ของโครงการ SPN เพิ่มขึ้นราว 10-20%

          และ SSP ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับสถานบันการเงินเพื่อเตรียม Refinance เงินกู้ของโครงการลมร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม (ภายใต้วินชัย, ขนาด 45MW) โดยคาดกระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในช่วงไตรมาส 4/2567

          นอกจากนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Pintung ในไต้หวันขนาด 38MW โดยคาดสามารถ COD ได้ในช่วง ไตรมาส 4/2571 และสามารถขายไฟฟ้าให้กับภาคเอกชนในไต้หวันภายใต้สัญญา Corporate PPA (CPPA) ได้ในอัตรา 4.5-4.9 ดอลลาร์ไต้หวัน/หน่วย (ราว 4.80 – 5.30 บาท/หน่วย) โดยคาดสร้าง EBITDA ให้กับ SSP ได้ราว 7.0 ล้านบาท/ปี/MW

          สำหรับโครงการลมในฟิลิปปินส์ขนาด 150MW ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) คาดมีความชัดเจนภายในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า SSP วางแผนเพิ่มกeลังผลิตเป็นมากกว่า 600MW ภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการ COD โครงการใหม่ในไทย (โครงการที่ได้รับคัดเลือกในรอบ 5.2GW) และในต่างประเทศ (เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฟิลิปปินส์)

          ปัจจุบัน SSP มีโครงการโรงไฟฟ้าที่ขึ้นทะเบียนกับ อบก. เพื่อรับรอง Carbon Credit แล้ว 3 โครงการและมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนอีก 1 โครงการ

          ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรปกติของ SSP ได้ผ่านจุดต่ำสุดของรอบไปแล้วในไตรมาส 2/2567 โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 3/2567 จะสามารถฟื้นตัวกลับมาที่ระดับ 150-180 ล้านบาท จากปัจจัยฤดูกาลของโครงการแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นและค่าเงินเยนที่เริ่มกลับมาแข็งค่า แต่ยังคงลดลงจาก Capacity Factor (CF) ของโครงการ SPN ที่ลดลงจากการเริ่มเปลี่ยนแผง Solar PV

          ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์มองไปช่วงไตรมาส 4/2567 คาดกำไรปกติมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสได้จากปัจจัยฤดูกาลของโครงการลมในไทยและเวียดนาม รวมถึงการรวมงบวินชัยแบบเต็มไตรมาส คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 8.90 บาท/หุ้น ราคาหุ้นซื้อขายบน PER2567 เพียง 10.3 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมาก คงคำ แนะนำ “ซื้อ”

รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SISB มั่นใจรายได้ตามเป้า มุ่งขยายโรงเรียนสาขา 7

SISB มั่นใจรายได้ตามเป้า มุ่งขยายโรงเรียนสาขา 7

AAV กำไรปกติQ4โตโดด ขานรับธุรกิจ high season

AAV กำไรปกติQ4โตโดด ขานรับธุรกิจ high season

BTS เงินสดคล่อง หลัง BMA จ่ายหนี้

BTS เงินสดคล่อง หลัง BMA จ่ายหนี้

SANTA RALLY เริ่มมา! โบรกจับตา 8 หุ้นลงลึก ต่างชาติช้อป

SANTA RALLY เริ่มมา! โบรกจับตา 8 หุ้นลงลึก ต่างชาติช้อป

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด